ปรับโครงหน้า

ในยุคที่ “ความมั่นใจ” มักมาพร้อมกับ “ความสมดุลของใบหน้า” หลายคนอาจสังเกตว่าโครงหน้าของตนเองไม่เท่ากัน บ้างคางเบี้ยว โหนกแก้มสูงไม่เท่ากัน หรือกรามใหญ่จนทำให้หน้าดูแข็งเกินไป ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วย ศัลยกรรมปรับโครงหน้า ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงใบหน้าอย่างถาวรและมีความปลอดภัยสูง

ปัญหา “โครงหน้าไม่สมดุล” คืออะไร

โครงหน้าไม่สมดุล หมายถึง สัดส่วนของใบหน้าที่ไม่เท่ากันหรือไม่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น

  1. คางเบี้ยวหรือสั้นเกินไป
  2. โหนกแก้มสูงหรือกว้างเกิน
  3. กรามสองข้างไม่เท่ากัน
  4. หน้าดูแบน ไม่มีมิติ

ซึ่งอาจเกิดได้จากพันธุกรรม การเจริญเติบโตที่ผิดปกติ หรือพฤติกรรมบางอย่าง เช่น การนอนตะแคงข้างเดียว การบดฟัน ฯลฯ

ศัลยกรรมปรับโครงหน้าคืออะไร

ศัลยกรรมปรับโครงหน้า (Facial Bone Contouring Surgery) คือการผ่าตัดกระดูกใบหน้าเพื่อปรับให้ได้สัดส่วนที่สมดุล โดยสามารถทำได้หลายตำแหน่ง เช่น

  1. ยุบโหนกแก้ม (Zygoma Reduction)
  2. ตัดกราม (Mandible Angle Reduction)
  3. เลื่อนคาง (Genioplasty หรือ Chin Advancement)

โดยคุณหมอจะวิเคราะห์ปัญหาโครงหน้าของแต่ละคน แล้วเลือกวิธีผ่าตัดหรือปรับแต่งตามความเหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติและปลอดภัยที่สุด

ศัลยกรรมปรับโครงหน้าแก้ไขอะไรได้บ้าง

เทคนิคศัลยกรรมปรับโครงหน้าหลักๆ มีอะไรบ้าง

1. ยุบโหนกแก้ม (Zygoma Reduction)

เป็นการผ่าตัดเพื่อลดความกว้างของกระดูกโหนกแก้ม เหมาะสำหรับผู้ที่มีโหนกสูงหรือหน้าแบน ต้องการปรับให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น

2. ตัดกราม (Mandible Reduction)

ช่วยลดความกว้างของใบหน้าส่วนล่าง เหมาะกับคนที่มีกรามใหญ่ หน้าดูแข็ง ทำให้รูปหน้าดูเรียวและหวานขึ้น

3. เลื่อนคาง (Genioplasty)

เป็นการปรับโครงกระดูกคางโดยไม่ต้องใช้ซิลิโคน ช่วยให้คางยาวขึ้น สมดุลกับสัดส่วนของใบหน้า เหมาะกับคนที่คางถอยหรือเบี้ยว

ข้อดีของการศัลยกรรมปรับโครงหน้า

  • เพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต
  • ช่วยปรับสมดุลของใบหน้าโดยรวม
  • เปลี่ยนรูปหน้าอย่างถาวรและปลอดภัย
  • ไม่ต้องพึ่งฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ตลอดไป
  • เห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 3-6 เดือนหลังผ่าตัด

ก่อนตัดสินใจปรับโครงหน้า ควรรู้อะไรบ้าง

ควรปรึกษาศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกใบหน้า

เพื่อให้ได้แนวทางที่ปลอดภัยและเหมาะกับโครงหน้าจริง

ตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด

ต้องแน่ใจว่าไม่มีโรคที่เป็นข้อห้าม เช่น โรคเลือด, หัวใจ

ศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน

โดยเฉพาะเกี่ยวกับเทคนิคการผ่าตัด และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

เตรียมตัวก่อนการผ่าตัด

เช่น งดอาหารเสริม วิตามิน หรือพฤติกรรมเสี่ยงก่อนผ่าตัด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปรับโครงหน้า

ศัลยกรรมปรับโครงหน้าเจ็บไหม?

ขณะผ่าตัดจะไม่รู้สึกเจ็บเพราะใช้วิธีดมยาสลบ หลังผ่าตัดอาจมีอาการบวมและตึงได้ 1-2 สัปดาห์ แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยยาและการดูแลที่เหมาะสม

ต้องพักฟื้นกี่วัน?

แนะนำพักฟื้นอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ และสามารถกลับไปทำงานเบาๆ ได้ในช่วง 7-10 วัน

จะมีรอยแผลเป็นชัดเจนไหม?

เทคนิคปัจจุบันส่วนใหญ่ซ่อนแผลในช่องปากหรือใต้ไรผม จึงแทบไม่เห็นรอยแผลจากภายนอก

สรุปศัลยกรรมปรับโครงหน้าคุ้มค่าหรือไม่

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่า “โครงหน้าไม่สมดุล” หรือ “หน้าดูแข็ง ไม่นุ่มนวล” การ ศัลยกรรมปรับโครงหน้า อาจเป็นคำตอบที่ช่วยเสริมความมั่นใจได้อย่างยั่งยืน โดยเทคนิคที่นิยมที่สุดได้แก่ ยุบโหนก, ตัดกราม, และ เลื่อนคาง ซึ่งทั้งหมดควรได้รับการวางแผนและผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การมีใบหน้าสมส่วน ไม่ได้เป็นเรื่องของความสวยเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่นใจในชีวิตประจำวันอีกด้วย

DCH Hospital
Author: DCH Hospital

Dr.Chen Writer

line icon
ปรึกษา DCH ฟรี
Written by

DCH Hospital

Dr.Chen Writer