ศัลยกรรม ดูดไขมัน

ดูดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด กำจัดไขมัน ปั้นหุ่นสวยปลอดภัย
พร้อมเทคนิคกระชับผิว โดย DCH Hospital
ในยุคที่การดูแลรูปร่างเป็นสิ่งสำคัญ หลายๆคนให้ตั้งคำถามว่าดูดไขมันที่ไหนดี เพราะศัลยกรรมดูดไขมันพร้อมกระชับผิวกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงรูปร่างให้ดูดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และสวยปลอดภัย อย่างที่โรงพยาบาลศัลยกรรม Dr.CHEN Surgery Hospital International Center ที่ได้นำเทคนิคเฉพาะทาง ทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์และชำนาญการด้านการดูดไขมันความงาม พร้อมนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ
ศัลยกรรมดูดไขมันคืออะไร?
ศัลยกรรมดูดไขมัน (Liposuction) คือกระบวนการกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือสะโพก เพื่อปรับรูปร่างให้ดูสมส่วนและได้สัดส่วนที่เหมาะสม เทคนิคนี้ได้รับการพัฒนาให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยี VASER Lipo และ BodyTite ที่สามารถดูดไขมันได้อย่างละเอียด ลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อรอบข้าง และช่วยกระชับผิวหนังให้เรียบเนียน

จุดประสงค์ของการดูดไขมัน ไม่ใช่การลดน้ำหนัก
การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในวงการศัลยกรรมเพื่อปรับรูปร่างและสัดส่วน แต่ยังมีความเข้าใจผิดว่าเป็นวิธีลดน้ำหนัก ซึ่งในความเป็นจริง จุดประสงค์ของการดูดไขมันมีเพื่อ “ลดไขมันและลดสัดส่วน” ไม่ใช่การลดน้ำหนักโดยตรง
การดูดไขมันช่วยลดไขมัน ไม่ใช่ลดน้ำหนัก
หลังจากดูดไขมัน น้ำหนักตัวจะลดลงเพียง 1-5 กิโลกรัมเท่านั้น เนื่องจากไขมันมีมวลที่เบากว่ากล้ามเนื้อ เมื่อไขมันถูกดูดออกจึงไม่ส่งผลต่อน้ำหนักตัวมากนัก อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่สำคัญคือรูปร่างที่กระชับขึ้น และการปรับสัดส่วนให้ดูสมส่วน
ข้อมูลทางการแพทย์ : ไขมันมีความหนาแน่นต่ำเมื่อเทียบกับกล้ามเนื้อ ดังนั้นปริมาณไขมันที่ถูกดูดออกจะไม่สะท้อนบนเครื่องชั่งน้ำหนัก แต่จะเห็นผลชัดเจนในด้านสัดส่วนและรูปร่างที่เปลี่ยนไป

ปรึกษาคุณหมอ DCH

ดูดไขมัน ตอบโจทย์ทุกปัญหา
- สะโพกกระชับ : สัดส่วนเป๊ะปัง ดูดีทุกมุมมอง
- หน้าท้องแบนราบ : บอกลาพุงพลุ้ย สวมใส่เสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจ
- ต้นขาเรียวสวย : สวมใส่กางเกงขาสั้นได้อย่างสบายใจ
- ต้นแขนกระชับ : ลืมปัญหาแขนตันไปได้เลย
ใครบ้างไม่ควรดูดไขมัน
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวเสี่ยงต่อหัตถการ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ภาวะเลือดออกง่าย
- ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรรอให้ร่างกายฟื้นตัวก่อน
- ผู้ที่มีความคาดหวังไม่ตรงกับผลลัพธ์จริง หากต้องการลดน้ำหนักครั้งใหญ่ ควรหาวิธีอื่นที่เหมาะสมกว่าการดูดไขมัน
ในกรณีที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาทั้งแพทย์ประจำตัวและแพทย์ดูดไขมันเพื่อความปลอดภัยของคนไข้ เช่นกันกับผู้ที่มีเชื้อ HIV ที่อยู่ในกระบวนการรักษาแล้ว หากแพทย์ประเมินว่าดูดไขมันได้ จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ส่วนตัวเฉพาะเพิ่มเติม
ส่วนไหนในร่างกายที่สามารถดูดไขมันได้

การดูดไขมันเฉพาะจุดเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างและกำจัดไขมันสะสมที่ลดได้ยากด้วยการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร สามารถทำได้ในหลายบริเวณของร่างกาย โดยแพทย์จะพิจารณาเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับแต่ละจุดตามลักษณะไขมันและความต้องการของผู้เข้ารับบริการ

บริเวณที่คนนิยมการดูดไขมันเฉพาะจุด
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมในตำแหน่งที่กำจัดได้ยาก ได้แก่
ดูดไขมันหน้าท้อง
ดูดไขมันหน้าท้อง คือ การทำศัลยกรรมเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือดูดไขมันเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อดูดเอาไขมันออก ทำให้หน้าท้องเรียบแบนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องยื่น หย่อนคล้อย หรือมีไขมันสะสมมากเกินไปที่ไม่สามารถลดได้ด้วยวิธีการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารเพียงอย่างเดียว
ดูดไขมันต้นขา
ดูดไขมันต้นขา เป็นจุดที่ลดไขมันได้ยากแม้ควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้วก็ตาม ปัญหาสำหรับไขมันบริเวณต้นขา คือ ขาเบียด เวลาเดินแล้วผิวหนังเสียดสีกัน ทำให้เกิดความคล้ำเพิ่มขึ้นอีกด้วย การดูไขมันขาจะช่วยให้ขาเรียวเล็กลงได้
ดูดไขมันต้นแขน
ดูดไขมันต้นแขน เป็นจุดยอดนิยมในการดูดไขมัน เพราะเป็นส่วนที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนบนร่างกาย หากดูแลตัวเองไม่ดีพอ ไม่มีการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ต้นแขนก็อาจมีอาการหย่อนคล้อยได้ แต่การดูไขมันจะทำให้เรียวแขน ดูเล็กลง
ดูดไขมันสะโพก
ดูดไขมันสะโพก เป็นการดูดไขมันส่วนเกินบริเวณสะโพก มักเป็นที่นิยมสำหรับสาว ๆ ที่มีไขมันสะสมเป็นจำนวนมาก เวลาใส่กางเกง เนื้อจะปลิ้น ดูไม่สวยงาม หากไม่ดูแลหุ่นอย่างสม่ำเสมอ สะโพกสามารถขยายออกไปได้อีกเรื่อยๆ ควรออกกำลังกายควบคู่ไปกับการดูดไขมัน
ดูดไขมันหน้า
ดูดไขมันหน้า เป็นการศัลยกรรมที่มุ่งเน้นการปรับรูปร่างของใบหน้า โดยการกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณต่างๆ เช่น ใต้คาง แก้ม และกราม เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวและมีกรอบที่ชัดเจนมากขึ้น กระบวนการนี้ช่วยให้ใบหน้ามีสัดส่วนที่สมดุลและสวยงามยิ่งขึ้น
ดูดไขมันเหนียง
ดูดไขมันเหนียง เป็นการศัลยกรรมที่มุ่งเน้นการลดไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คางและลำคอ ซึ่งช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนและใบหน้าดูเรียวขึ้น การทำดูดไขมันเหนียงจะใช้เครื่องมือดูดไขมันเพื่อแยกเซลล์ไขมันใต้ชั้นผิวหนังและดูดออกมา
ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักควรมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เช่น การควบคุมอาหารและการออกกำลังกายเป็นประจำ เลือกทำศัลยกรรมดูดไขมันที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ที่ DCH Hospital ที่ให้บริการด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ และปลอดภัยสูงสุด

ปรึกษาคุณหมอ DCH

ประโยชน์และความเสี่ยงของการดูดไขมัน
- ปรับรูปร่าง หุ่นดีขึ้นช่วยกำจัดไขมันเฉพาะจุดที่ออกกำลังกายลดไม่ได้ เช่น หน้าท้อง เอว ต้นขา ทำให้รูปร่างดูสมส่วนขึ้น
- เพิ่มความมั่นใจ รูปร่างที่สวยงามขึ้นส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจในตัวเอง
- แก้ไขปัญหาทางกายภาพ ในบางกรณี เช่น ไขมันสะสมมากเกินไปจนกดทับอวัยวะภายใน การดูดไขมันอาจช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้
ความเสี่ยงและผลข้างเคียงของการดูดไขมัน
- ภาวะแทรกซ้อน อาจเกิดการติดเชื้อ เลือดออก
- ผิวไม่เรียบ หลังการดูดไขมัน ผิวอาจเกิดรอยบุ๋ม รอยคลื่น หรือผิวไม่เรียบเนียน
- การบวมและช้ำ เป็นอาการปกติหลังการผ่าตัด แต่ในบางรายอาจบวมช้ำมากและใช้เวลานานในการหาย
- ความรู้สึกชา อาจเกิดความรู้สึกชาบริเวณที่ทำการดูดไขมันได้ชั่วคราวหรือถาวร

Body-jet ทำงานอย่างไร?
Body-Jet คือเทคโนโลยีที่ใช้พลังน้ำขจัดไขมันส่วนเกินอย่างนุ่มนวล การดูดไขมันเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหาหุ่นที่ไม่กระชับ หรือไขมันส่วนเกินที่ไม่สามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกายหรือการควบคุมอาหาร เทคโนโลยี Body-Jet กำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทยด้วยหลักการทำงานที่ใช้พลังน้ำ (Water Jet) เพื่อขจัดไขมันอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
หลักการทำงานของ Body-Jet ใช้เทคนิคการพ่นน้ำในลักษณะรูปพัด (Fan Shape) เพื่อแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน รวมทั้งเส้นประสาทและเส้นเลือดให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด. เทคโนโลยีนี้ช่วยให้การดูดไขมันทำได้อย่างนุ่มนวล โดยไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บหรือผลข้างเคียงจากการกระทบกระเทือน
ในขณะเดียวกัน การพ่นน้ำสามารถทำให้เซลล์ไขมันถูกดูดออกมาในขั้นตอนเดียวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไขมันที่ได้จะมีคุณภาพสูงและสามารถนำไปปลูกถ่ายในบริเวณที่ต้องการได้ เช่น ใบหน้า มือ หน้าอก หรือสะโพก. การปลูกถ่ายไขมัน (Autologous Fat Transfer) ช่วยให้บริเวณที่ต้องการดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ, ไม่เป็นอันตรายและผลลัพธ์ที่ได้มีความยาวนาน
ทำไม Body-jet จึงดีกว่าวิธีการดูดไขมันแบบอื่น
การดูดไขมันด้วยเทคโนโลยี Water Jet
ใช้แรงดันน้ำในการฉีดพ่นน้ำอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล ซึ่งแตกต่างจากกรรมวิธีการดูดไขมันทั่วไปที่ใช้แรงดูดหรือเครื่องมือที่กระทบกระเทือนร่างกายมากกว่า. การใช้เทคโนโลยีนี้ทำให้เสียเลือดน้อยเพียง 1-2% และช่วยลดอาการบวมและความบอบช้ำของผิว, ทำให้แผลหายเร็วและไม่ต้องพักฟื้นนาน
กระบวนการดูดไขมัน
แบบระบบปิดช่วยให้ไขมันที่ถูกดูดออกไม่สัมผัสกับอากาศภายนอก, ทำให้เซลล์ไขมันที่ได้มีอัตรารอดชีวิตสูงและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ. นอกจากนี้, ไม่จำเป็นต้องใช้สารละลายปริมาณสูงก่อนการดูดไขมัน, ทำให้ลดปัญหาการบวมจากสารละลายหลังการรักษาได้
สามารถทำการดูดไขมันในบริเวณต่างๆ
ของร่างกาย เช่น ลำคอ, หน้าอก, เอว, สะโพก, ขา, แขน, และน่อง (ยกเว้นบริเวณแก้ม) โดยไม่ทำให้เกิดบวมช้ำหรือเจ็บระหว่างการทำ, และหลังการรักษาผิวหนังจะเรียบเนียนโดยไม่มีผิวเป็นคลื่น
เทคโนโลยีนี้ยังสามารถเก็บเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพดี
เพื่อนำไปปลูกถ่ายหรือเติมเต็มส่วนต่างๆ ของร่างกาย, เช่น หน้าอกหรือสะโพก, เพื่อให้รูปร่างสมบูรณ์ และดูเป็นธรรมชาติ
ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานแค่ไหน หลังการ ดูดไขมัน Body-jet
โดยทั่วไปผู้รับบริการจะใช้เวลาการพักฟื้นน้อยมาก บางรายสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติในวันเดียวกัน การกลับคืนสู่สภาวะปกติของ แต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งปริมาณของไขมันที่ถูกดูดออก รวมถึงบริเวณที่ทำด้วยเช่นกัน แต่ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีของ Body-Jet ซึ่งมีผลกระทบต่อร่างกายน้อยมาก ดังนั้นจึงไม่ต้องวิตกกังวลว่าจะใช้เวลาพักฟื้นเป็นเวลานานอย่างแน่นอน หลังจากดูดไขมันแล้วจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีว่ามีการเปลี่ยนแปลง แต่สัดส่วนจะชัดเจนเป็นรูปทรงมากขึ้นหลังจาก 1 เดือน ขึ้นไป
ความปลอดภัย
- ไม่มีผลกระทบต่อหลอดเลือด เส้นประสาทและเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ
- ช่วยลดอาการบาดเจ็บและภาวะเสี่ยงของการติดเชื้อต่างๆ
- ไม่ทำให้เกิดอันตราย ไม่จำเป็นต้องใช้ยาสลบ

เครื่อง Bodytite คืออะไร
เครื่องดูดไขมัน Bodytite นั้น เป็นเครื่องดูดไขมันที่ปล่อยคลื่นความถี่วิทยุ หรือ Radiofrequency ออกมา เพื่อช่วยในการสลายไขมัน ให้มีโมเลกุลที่เล็กลง มีความปลอดภัยที่สูง และใช้กันอย่างกว้างขวาง เพราะข้อได้เปรียบของคลื่น RF นี้ ยังมีส่วนช่วยในชั้นผิวหนังแท้ให้มีการสร้างคอลลาเจน
ทำให้เกิดผิวที่กระชับขึ้นอีกด้วย สามารถกำจัดไขมันได้หลายจุด เช่น ท้อง,สะโพก,ต้นขา,เข่า,ต้นแขน,คอ และหน้าอก เป็นต้น ด้วยเทคโนโลยีนี้เอง ทำให้ระบบหลอดเลือด ระบบเซลล์ประสาท และเนื้อเยื่อข้างเคียงเกิดความเสียหายน้อยลง ทำให้ได้ผลลัพธ์ในการดูดไขมันที่ดีที่สุด ได้รูปร่างออกมาสวยสมบูรณ์ในทุกสัดส่วน
สำหรับเครื่อง BodyTite Pro รุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมกับหัว Handpiece ซึ่งมีขนาดที่แตกต่างกัน 3 แบบ โดย Handpiece ที่มีขนาดที่แตกต่างกันนี้เองที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย รวมถึงสลายไขมันส่วนเกินได้ดียิ่งขึ้น ซอกซอนได้แม้ในบริเวณที่เข้าถึงได้ยาก และแพทย์สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับในแต่ละเคส ดังนี้
- BodyTite (ขนาดใหญ่สุด) เหมาะสำหรับใช้บริเวณลำตัว เช่น หน้าท้อง, ขาด้านใน และก้น ซึ่งมีขนาดแผลเพียง 3-4 มม.
- FaceTite (ขนาดกลาง) เหมาะสำหรับใช้บริเวณใบหน้า เช่น ร่องแก้มและเหนียงใต้คาง ซึ่งมีขนาดแผลเพียง 3-4 มม.
- ACCUtite (ขนาดเล็กสุด) เหมาะสำหรับใช้บริเวณใบหน้าและลำตัว ตามบริเวณเล็ก ๆ ที่เข้าถึงได้ยาก เช่น คิ้ว, ใต้ตา, เหนียง, ร่องแก้ม และบริเวณนมน้อย ซึ่งมีขนาดแผลที่เล็กมาก ๆ เทียบได้กับเข็มฉีดฟิลเลอร์
เครื่อง BodyTite Pro มีคุณสมบัติช่วย “ยกกระชับผิวและสลายไขมันส่วนเกิน

ตัวHandpiece จะมีหัว 2 หัว ทั้งด้านบนและล่าง ซึ่งหลักการทำงานของเครื่อง คือ ส่งพลังงานคลื่นความถี่วิทยุแบบ Bipolar ไปยังหัวที่อยู่ด้านบนและด้านล่าง ซึ่งพลังงานคลื่น RF จะสร้างความร้อน 40-60 องศาเซลเซียส โดยหัวด้านล่างที่ถูกสอดเข้าไปยังใต้ชั้นผิวหนังจะมีอุณหภูมิที่สูงกว่าหัวด้านบน จึงทำให้สามารถสลายไขมันได้ และยังสามารถปรับระดับความลึกตามความหนาของชั้นไขมันได้
กระชับผิวให้ตึง
BodyTite Pro ปล่อยพลังงานคลื่น RF ไปยังชั้นผิวที่หย่อนคล้อย ย้วยยาน ทำให้เกิดการเรียงตัวใหม่ และกระตุ้นการสร้างของคอลลาเจน รวมถึงอิลาสติน นอกจากนี้ ความร้อนจากคลื่น RF จะไปทำให้เส้นใยและคอลลาเจนเกิดการหดตัวกระชับ ส่งผลให้ผิวที่เคยเหี่ยวย่น หย่อนย้วย กลับมาตึงกระชับเรียบเนียนยิ่งขึ้น
สลายไขมันส่วนเกิน
ด้วยความร้อนที่มีอุณหภูมิ 40-60 องศาเซลเซียส ที่มาจากคลื่น RF ซึ่งถูกส่งผ่านมายังเข็มปลายทู่ (หัวด้านล่าง) ที่ถูกสอดเข้าไปยังใต้ชั้นผิวหนัง จะไปช่วยสลายไขมันส่วนเกิน และช่วยให้เส้นใยที่ทำหน้าที่ยึดติดผิว (Fibro Septal Network : FSN) เกาะติดกันได้ดีขึ้น ส่งผลให้สัดส่วนนั้น ๆ ที่ทำการรักษามีขนาดเล็กลง
ดูดไขมัน Bodytite pro ดีกว่าการดูดไขมันด้วยวิธีการดั้งเดิมอย่างไร
เมื่ออายุมากขึ้น หรือมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น ผิวหนังจะยืดหยุ่นน้อยลง การดูดไขมันแบบเดิมจะยิ่งทำให้ผิวหนัง บริเวณที่ได้รับการดูดไขมันดูไม่เรียบเป็นก้อน มีผิวหนังหย่อนยาน หรือแตกลาย จึงเหมาะกับการ ดูดไขมัน Bodytite เนื่องจากคลื่น RF จะช่วยกระชับผิว
โอกาสที่ผิวหนังจะหย่อนยานยิ่งขึ้นหลังการดูดไขมันจะลดน้อยลง เมื่อเทียบกับการดูดไขมันแบบเดิม ดูดไขมัน Bodytite คือ ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า อ่อนโยนกว่า และบอบช้ำน้อยกว่าอีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ อาการเจ็บปวด และฟกช้ำหลังการรักษาน้อยมาก


- ข้อดีของ BodyTite Pro
- ช่วยยกกระชับผิวพร้อมสลายไขมันในหนึ่งเดียว
- คืนผิวเด็ก เรียบเนียน ไร้ริ้วรอย
- ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นหลังทำ
- ราคาสบายกระเป๋า
- เห็นผลลัพธ์ถึงความเปลี่ยนแปลงชัดเจน
- เข้าถึงตำแหน่งเล็ก ๆ ที่ยากต่อการรักษา
- ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน
- พักฟื้นไม่นาน (บางตำแหน่งการรักษาสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที)
- ข้อเสียของ BodyTite Pro
- ไม่เหมาะกับการกระทำยกกระชับในเคสผู้ที่มีปัญหาผิวย้วยหนัก หรือ เคสพลัสไซซ์ ที่มีไขมันสะสมเยอะมากๆ ไม่ตอบโจทย์กับการทำ BodyTite Pro
จุดเด่นดูดไขมัน ที่ DCH Hospital
ศูนย์ใช้เทคโนโลยีดูดไขมันขั้นสูง เช่น Body-Jet ที่เน้นการขจัดไขมันส่วนเกินอย่างอ่อนโยนและปลอดภัย อุปกรณ์ที่ทันสมัยช่วยลดผลข้างเคียงและเพิ่มความแม่นยำในการรักษา ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยทำให้เลือดออกน้อยจึงมีการพักฟื้นที่รวดเร็ว ไม่เจ็บขณะทำเนื่องจากมียานอนหลับ
เทคโนโลยีทันสมัย
ศูนย์ใช้เทคโนโลยีดูดไขมันขั้นสูง เช่น Body-Jet ที่เน้นการขจัดไขมันส่วนเกินอย่างอ่อนโยนและปลอดภัย. อุปกรณ์ที่ทันสมัยช่วยลดผลข้างเคียงและเพิ่มความแม่นยำในการรักษา ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยทำให้เลือดออกน้อยจึงมีการพักฟื้นที่รวดเร็ว ไม่เจ็บขณะทำเนื่องจากมียานอนหลับ
ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ
ทีมแพทย์ที่ DCH Hospital มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านการดูดไขมัน พร้อมประสบการณ์การรักษาหลายเคสที่ประสบความสำเร็จ สามารถลดสัดส่วนเฉพาะจุดได้โดยตรง แผลเล็กมาก แพทย์สามารถซ่อนแผลได้อย่างดีเยี่ยม เห็นถึงสัดส่วนที่เล็กลงในทันทีหลังทำหัตถการ
การบริการที่ใส่ใจในรายละเอียด
เราให้ความสำคัญกับการให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคลและการดูแลหลังการรักษาอย่างต่อเนื่อง การติดตามผลอย่างใกล้ชิดช่วยให้ผู้รับบริการมั่นใจได้ในคุณภาพของผลลัพธ์ ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับหนุ่มสาว จากหุ่นที่ดูกระชับได้รูปทรงมีสัดส่วนที่ชัดเจน
มาตรฐานระดับสากล
สถานพยาบาลได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพ ทั้งในด้านการรักษาและการบริการ, ทำให้ Dr.CHEN Surgery Hospital International Center ได้รับความไว้วางใจจากผู้รับบริการทั้งในและต่างประเทศ

ดูดไขมันที่ไหนดี?
ทำไมต้องเลือกดูดไขมัน พร้อมกระชับผิวและสัดส่วน
ที่ DCH Hospital
การตัดสินใจดูดไขมัน แก้ปัญหาไขมันส่วนเกิน สะสมเฉพาะจุดเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความรอบคอบในการเลือกสถานที่ เพราะสถานที่ที่มีมาตรฐาน ใช้เทคโนโลยีเครื่อง Bodytite ของแท้ 100% และได้รับการรับรองจาก อ.ย.ไทย และ US FDA จะช่วยให้คุณได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย พร้อมทั้งผลลัพธ์หลังดูดไขมันแผลเล็ก เจ็บน้อย คนไข้การันตีพึงพอใจ ให้เราเป็นหนึ่งในสถานพยาบาลที่ได้รับความไว้วางใจในประเทศไทย คือ โรงพยาบาลศัลยกรรม DCH Hospital
คำแนะนำจากแพทย์สำคัญที่สุด
การพูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับความกังวล และความคาดหวังเกี่ยวกับความเจ็บปวดเป็นสิ่งสำคัญ แพทย์จะช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดูดไขมัน ขั้นตอนการรักษา และการจัดการความเจ็บปวดได้อย่างเหมาะสมที่สุด อย่างที่โรงพยาบาลศัลยกรรม DCH Hospital
เหตุผลที่ควรเลือก ที่ DCH Hospital
การดูดไขมันไม่ใช่เพียงการขจัดไขมันส่วนเกิน แต่ยังเป็นการปรับรูปร่างและเพิ่มความมั่นใจ ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย, ทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ, และการบริการที่ใส่ใจ, โรงพยาบาลศัยยกรรม DCH Hospital จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มองหา สนใจดูดไขมันเฉพาะจุด ลดสักส่วน ปั้นหุ่นสวยปลอดภัย และผลลัพธ์ที่น่าพอใจ การดูแลทุกท่านอย่างใส่ใจ เราจึงเป็นที่ไว้วางใจของผู้รับบริการเสมอมา

FAQ คำถามที่พบบ่อย
ดูดไขมัน เจ็บไหม? เข้าใจการฟื้นตัวหลังการผ่าตัดดูดไขมัน
การดูดไขมันเป็นหัตถการที่หลายคนกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวดระหว่างและหลังการรักษา. อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการดูแลจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ, ความเจ็บปวดสามารถลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความรู้สึกเจ็บปวดหลังการดูด
จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เมื่อผลของยาสลบหรือยาชาหมดลง ผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบายในบริเวณที่ทำการดูดไขมัน ระดับความเจ็บปวดขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- ขนาดของพื้นที่ที่ดำเนินการ
- เทคนิคที่ใช้ในการดูดไขมัน
- ความทนทานต่อความเจ็บปวดของผู้ป่วย
โดยทั่วไป ความเจ็บปวดมักจะอยู่ในระดับที่จัดการได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์สั่ง
การเตรียมตัวก่อนการดูดไขมัน

การเตรียมตัวก่อนการดูดไขมันนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และผลลัพธ์ที่ได้ออกมาตรงตามที่คาดหวังมากที่สุด
อาการทั่วไปหลังการดูดไขมัน
- อาการบวมและรอยช้ำ : เกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อการดูดไขมัน และมักจะลดลงในช่วง 1-2 สัปดาห์
- ความรู้สึกไม่สบาย : สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้เสื้อผ้าพยุงเฉพาะทางที่ช่วยลดบวมและรอยช้ำ
- อาการเจ็บปวด : บางครั้งอาจมีความตึงในบริเวณผิวหนัง แต่จะค่อยๆ หายไปเมื่อเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว
ดูแลฟื้นตัวหลังการดูดไขมัน

ข้อควรระวัง และวิธีการดูแลหลังผ่าตัด การดูแลหลังการดูดไขมันเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ลดอาการบวมช้ำ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น การติดเชื้อ หรือการเกิดรอยแผลเป็นที่ไม่สวยงาม
