เหนียงย้อย คางสองชั้น หรือใบหน้าที่ดูไม่กระชับ กรอบหน้าไม่ชัด ถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายคนกังวล เพราะนอกจากจะทำให้ใบหน้าดูอ้วนขึ้นแล้ว ยังส่งผลต่อความมั่นใจเวลาออกสังคมหรือถ่ายรูป การออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารอาจไม่เพียงพอสำหรับการลดไขมันเฉพาะจุด เช่น “บริเวณเหนียง” ดังนั้น “การดูดไขมันเหนียง” จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมในปัจจุบัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดปริมาณไขมันสะสมบริเวณใต้คางให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
แม้จะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงและได้รับการรับรองในทางการแพทย์ แต่ก็ยังมีหลายคำถามที่ผู้สนใจมักสอบถามเข้ามาอยู่เสมอ บทความนี้จะมาตอบ “3 คำถามยอดฮิตของการดูดไขมันเหนียง” ที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ
1. การดูดไขมันเหนียง เหมาะกับใคร?
การดูดไขมันเหนียงเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณใต้คาง คางสองชั้น หรือผู้ที่รู้สึกว่ากรอบหน้าไม่ชัดเจน โดยทั่วไปจะเห็นผลดีในกลุ่มผู้มีอายุระหว่าง 20–50 ปี โดยเฉพาะในช่วงอายุ 20–35 ปี ที่ยังมีความยืดหยุ่นของผิวดี การฟื้นตัวจะรวดเร็ว และผิวสามารถกระชับได้ดีขึ้นหลังการดูดไขมัน
อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ทำในผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยจากอายุที่มากโดยไม่มีการยกกระชับร่วมด้วย และผู้ที่มีโรคประจำตัวบางประเภท เช่น โรคเลือด หรือเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการอย่างละเอียด
2. ผลลัพธ์จากการดูดไขมันเหนียงอยู่ได้นานแค่ไหน?
การดูดไขมันเหนียงเป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คางแบบถาวร โดยใช้เทคนิคที่ทำลายเซลล์ไขมันโดยตรง ส่งผลให้ไขมันในบริเวณนั้นไม่สามารถกลับมาได้ในปริมาณเดิม หากผู้ป่วยยังควบคุมน้ำหนักและรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม
แต่หากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ก็มีโอกาสที่ไขมันใหม่จะไปสะสมซ้ำได้ จึงควรดูแลตัวเองหลังทำอย่างเหมาะสม โดยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อคงผลลัพธ์ของการดูดไขมันเหนียงให้ยาวนาน
3. การดูแลหลังดูดไขมันเหนียงต้องทำอย่างไร?
หลังการดูดไขมันเหนียง ผู้ป่วยจะมีอาการบวม ช้ำ และรู้สึกตึงบริเวณคางเล็กน้อยในช่วง 7–14 วันแรก ซึ่งถือเป็นอาการปกติ โดยการดูแลหลังทำมีข้อควรปฏิบัติดังนี้:
- ใส่ผ้ายืดรัดคาง (Chin Strap) อย่างเคร่งครัดตามแพทย์แนะนำ อย่างน้อย 3–5 วัน เพื่อช่วยให้ผิวกระชับและลดอาการบวม
- ตัดไหม ประมาณวันที่ 7–10 (กรณีมีการเย็บแผล)
- งดกิจกรรมหนัก หรือการขยับกล้ามเนื้อบริเวณคอมากเกินไปในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 1 เดือน เพราะอาจทำให้แผลหายช้า
- สามารถกลับไปทำงานปกติได้ภายใน 5–7 วัน และใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังจากประมาณ 2 สัปดาห์
- เห็นผลลัพธ์ชัดเจนในช่วง 4–6 สัปดาห์ และเต็มที่ใน 3 เดือน
ดูดไขมันเหนียงทางเลือกหรือทางลัดเพื่อทำให้ใบหน้าเรียว หน้าเล็ก การดูดไขมันเหนียงถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันบริเวณใต้คาง แก้ไขปัญหาคางสองชั้น และปรับกรอบหน้าให้ชัดเจนขึ้น ทั้งนี้การเลือกสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย มีแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง และใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน อย่างโรงบาลศัลยกรรม DCH Hospital เป็นสิ่งสำคัญเพื่อผลลัพธ์และความปลอดภัย
Author: Marketing Dr.Chen
