การยกกระชับหน้าอก เป็นอีกหนึ่งการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมสูงมากในประเทศไทยปี 2568 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่มีปัญหา หน้าอกหย่อนคล้อย จากอายุที่เพิ่มขึ้น การให้นมบุตร หรือการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว ซึ่งการเลือก เทคนิคแผลผ่าตัดยกกระชับหน้าอก ให้เหมาะสม จะช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ และลดรอยแผล
วันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ แผลผ่าตัดยกกระชับหน้าอก ว่ามีกี่แบบ และแต่ละแบบเหมาะกับเคสไหนบ้าง
1. ยกกระชับเทคนิค “โดนัท” (รอบปานนม)
- เหมาะสำหรับผู้ที่หย่อนคล้อยไม่มาก เทคนิคนี้ศัลยแพทย์จะทำการตัดหนังส่วนเกินรอบๆ ปานนม แล้วทำการเย็บยกกระชับขึ้นใหม่ โดย รอยแผลจะซ่อนอยู่รอบปานนม ช่วยให้รอยแผลน้อยมากและแทบมองไม่เห็น เหมาะกับคนที่มีหย่อนคล้อยเล็กน้อย และต้องการยกกระชับโดยไม่ทิ้งรอยแผลชัดเจน
- จุดเด่น แผลน้อย ซ่อนแผลได้ดี เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการให้เห็นรอยแผลชัด
2. ยกกระชับเทคนิค “ตัว I” (แนวตั้ง)
- เหมาะสำหรับผู้ที่หย่อนคล้อยปานกลาง วิธีนี้จะมีการตัดหนังและยกกระชับ โดยแผลจะเป็นเส้นแนวตรงจากปานนมลงมาด้านล่างคล้ายแท่งอมยิ้ม (ไม่ผ่านใต้ราวนม) เทคนิคนี้ช่วยให้สามารถยกกระชับได้มากกว่าวิธีโดนัท และทำให้หน้าอกกลับมากระชับสวยขึ้นอย่างชัดเจน
- จุดเด่น แผลอยู่เฉพาะแนวตั้ง ไม่ขยายใต้ราวนม ดูแลแผลง่าย
3. ยกกระชับเทคนิค “ตัว T” (แนวตั้งและใต้ราวนม)
- เหมาะสำหรับผู้ที่หย่อนคล้อยมาก ในเคสที่หน้าอกหย่อนคล้อยรุนแรง ต้องการยกกระชับมากที่สุด เทคนิคตัว T จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยแผลจะมีทั้งแนวตั้งลงมาจากปานนม และแนวนอนที่รอยใต้ราวนม ช่วยให้สามารถจัดตำแหน่งหน้าอกและย้ายปานนมขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่สวยงามได้ง่าย
- จุดเด่น ยกกระชับได้มากที่สุด เหมาะกับเคสหย่อนคล้อยรุนแรงหรือหน้าอกใหญ่
ทำไมต้องเลือกเทคนิคแผลผ่าตัดยกกระชับหน้าอกให้เหมาะสม?
การเลือกวิธี ยกกระชับหน้าอก ที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อรูปร่างและความสวยงาม แต่ยังมีผลต่อการฟื้นตัว ระยะเวลาการพักฟื้น และรอยแผลหลังผ่าตัดด้วย ดังนั้นการปรึกษาศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อประเมินลักษณะของเต้านมก่อนตัดสินใจเลือกเทคนิคจึงมีความสำคัญมาก
โดยเฉพาะที่ DCH Hospital เราให้ความสำคัญกับการออกแบบแผลและเลือกเทคนิคเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามที่สุด ลดโอกาสเกิดรอยแผลนูน และเน้นการฟื้นตัวที่รวดเร็ว

Author: Marketing Dr.Chen
