การมีโครงหน้าที่ได้สัดส่วนรับกับใบหน้า เป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา ไม่ว่าจะเพื่อเสริมความมั่นใจ หรือเพื่อแก้ปัญหาใบหน้าที่ไม่สมดุล ศัลยกรรมปรับโครงหน้า จึงกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ความสวยงามและการปรับโครงสร้างที่แท้จริง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวิธี “ปรับโครงหน้าให้เหมาะกับรูปหน้าของคุณ” ว่าควรเลือกทำหัตถการแบบไหน เช่น ตัดกราม, ยุบโหนก, เลื่อนคาง พร้อมข้อมูลที่เข้าใจง่าย
รูปหน้าแต่ละแบบ และปัญหาโครงหน้าที่พบบ่อย
ก่อนเลือกศัลยกรรม ควรรู้ก่อนว่าตนเองมีรูปหน้าแบบไหน เพราะการปรับโครงหน้าที่เหมาะสมจะช่วยเน้นจุดเด่นและลดจุดด้อยได้อย่างตรงจุด
1. ใบหน้ากลม (Round Face)
 
															ลักษณะ : หน้าสั้น แก้มอูม ไม่มีมุมกรามชัด
ปัญหาหลัก : หน้าดูเด็กเกินไป ขาดมิติ
แนะนำการปรับโครงหน้า
- ตัดกระดูกกราม (Jaw Reduction) เพื่อทำให้หน้าดูเรียวยาวขึ้น
- ยุบโหนกแก้ม (Zygoma Reduction) หากโหนกแก้มเด่นเกินไป
- เลื่อนคาง (Genioplasty) เพื่อเพิ่มความยาวของใบหน้าให้สมดุล
2. ใบหน้ายาว (Long Face)
 
															ลักษณะ : หน้ายาว คางแหลม โหนกแก้มต่ำ
ปัญหาหลัก : หน้าดูเหนื่อยหรือโทรม
แนะนำการปรับโครงหน้า
- ลดความยาวคาง ด้วยการผ่าตัดเลื่อนคางเข้าด้านใน
- หากกรามยาว อาจเสริมด้วย ตัดกราม (Mandible Angle Reduction)
- การเติมวอลลุ่มช่วงแก้มและหน้าผากจะช่วยให้หน้าดูสมดุลขึ้น
3. ใบหน้าสี่เหลี่ยม (Square Face)
 
															ลักษณะ : กรามเด่น กว้าง หน้าเหลี่ยม
ปัญหาหลัก : หน้าดูแข็ง ไม่ละมุน
แนะนำการปรับโครงหน้า
- ศัลยกรรมตัดกราม ลดความเหลี่ยมของใบหน้า
- บางรายอาจใช้ การกรอโหนกแก้ม เพิ่มความละมุน
- เสริมคางเล็กน้อยเพื่อความสมดุลของกรอบหน้า
4. ใบหน้าหัวใจ (Heart-Shaped Face)
 
															ลักษณะ : หน้าผากกว้าง แก้มเด่น คางแหลม
ปัญหาหลัก : คางแหลมเกินไป หรือโหนกแก้มสูง
แนะนำการปรับโครงหน้า
- ยุบโหนก เพื่อให้ช่วงกลางหน้าดูซอฟต์ลง
- เลื่อนคาง หรือ เสริมคาง ให้สมส่วน
- เสริมด้วยการเติมวอลลุ่มบริเวณกรอบหน้า
5. ใบหน้ารูปไข่ (Oval Face)
 
															ลักษณะ : รูปหน้าที่สมดุลที่สุด
ปัญหาหลัก : น้อยมาก มักต้องการปรับเฉพาะจุด
แนะนำการปรับโครงหน้า
- เน้นความละมุน เช่น เลื่อนคาง หรือปรับองศาเบา ๆ
- ยุบโหนกเล็กน้อย หากโหนกเด่นเกินไป
วิธีปรับโครงหน้าแบบต่าง ๆ ที่ควรรู้
1. ศัลยกรรมตัดกราม (Jaw Reduction Surgery)
- ช่วยลดขนาดกรามที่กว้างหรือเหลี่ยม
- เหมาะกับผู้ที่มีใบหน้าเหลี่ยม หรือกรามยื่น
- วิธีทำคือผ่าตัดกระดูกบริเวณมุมกรามแล้วตกแต่งให้เรียบเนียน
2. ศัลยกรรมยุบโหนกแก้ม (Zygoma Reduction)
- ลดความกว้างของโหนกแก้ม ทำให้หน้าดูเล็กลง
- ช่วยให้ใบหน้าดูซอฟต์ และสมส่วนมากขึ้น
- นิยมมากในผู้ที่มีโหนกแก้มชัดแบบชาวเอเชีย
3. เลื่อนคาง (Genioplasty)
- ปรับความยาวและตำแหน่งของคาง
- ช่วยแก้ปัญหาคางสั้น คางถอย คางเบี้ย
- มีทั้งการเลื่อนคางไปด้านหน้า, ถอยหลัง หรือเลื่อนลงด้านล่าง
ศัลยกรรมปรับโครงหน้า จำเป็นต้องทำครบทุกจุดไหม
ไม่จำเป็นต้องทำทั้ง 3 จุดพร้อมกัน (กราม โหนก คาง) หากไม่ได้มีปัญหาโครงหน้าเด่นชัดมาก แพทย์จะช่วยประเมินว่าโครงสร้างใบหน้าของคุณควรแก้ไขส่วนไหน เพื่อให้ ได้ผลลัพธ์ที่สมดุลและดูเป็นธรรมชาติ มากที่สุด หลายเคสสามารถทำเฉพาะจุด เช่น ตัดกราม อย่างเดียว หรือ เลื่อนคาง เพียงเล็กน้อย ก็ช่วยเปลี่ยนรูปหน้าได้อย่างชัดเจน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปรับโครงหน้า (FAQ)
A : ผ่าตัดภายใต้การวางยาสลบ จึงไม่รู้สึกเจ็บขณะผ่าตัด หลังผ่าตัดจะมีอาการบวมและตึง ซึ่งสามารถควบคุมได้ด้วยยาและการดูแลที่ถูกวิธี
A : ประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยส่วนใหญ่กลับไปทำงานเบา ๆ ได้ในสัปดาห์ที่ 2
A : หากทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน ความเสี่ยงจะน้อยมาก และผลลัพธ์จะอยู่ได้ถาวร
สรุป
ศัลยกรรมปรับโครงหน้า เป็นการผ่าตัดเพื่อปรับสมดุลของโครงสร้างใบหน้าให้เหมาะกับลักษณะเฉพาะของแต่ละคน ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ความมั่นใจและบุคลิกภาพโดยรวมดีขึ้นอย่างชัดเจน
 
				Author: DCH Hospital
Dr.Chen Writer

 
            