ยกคิ้ว EBL

เมื่ออายุมากขึ้น “คิ้วตก หนังตาตก” กลายเป็นสัญญาณแรก ๆ ที่ทำให้ใบหน้าดูอ่อนแรง เหนื่อย หรือไม่สดใส แม้จะนอนพักเพียงพอก็ตาม หลายคนจึงเริ่มหาทางแก้ไขปัญหานี้ด้วยสองทางเลือกยอดนิยม คือ “ยกคิ้ว” (Brow Lift) และ “งานฉีด” เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือไหมยกกระชับ แต่คำถามคือ… ทั้งสองแบบนี้ช่วยแก้ “คิ้วตก” ได้เหมือนกันจริงไหม? วันนี้เรามาเจาะลึกกันว่าความแตกต่าง จุดเด่น และข้อจำกัดของแต่ละวิธีคืออะไร เพื่อให้คุณเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

สาเหตุหลักของปัญหาคิ้วตก

ก่อนจะเลือกว่าจะ “ยกคิ้ว” หรือ “ฉีด” เราควรรู้ก่อนว่าทำไมคิ้วถึงตก เพราะแต่ละสาเหตุจำเป็นต้องใช้วิธีรักษาไม่เหมือนกัน

อายุและแรงโน้มถ่วงของผิว (Gravity & Aging)

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังบริเวณหน้าผากสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหย่อนลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก คิ้วจึงค่อย ๆ ลดระดับต่ำลง

กล้ามเนื้อดึงคิ้วทำงานมากเกินไป

บางคนมีการใช้กล้ามเนื้อระหว่างคิ้วและหน้าผากบ่อย ทำให้คิ้วถูกดึงลงโดยธรรมชาติ จึงเกิดรอยย่นและคิ้วตกไปพร้อมกัน

โครงหน้าและรูปกระดูกเบ้าตา

ผู้ที่มีเบ้าตาลึกหรือกระดูกหน้าผากยุบ มักดูเหมือนคิ้วตกแม้อายุน้อย เพราะโครงสร้างใบหน้าดึงส่วนบนลงโดยธรรมชาติ

ผลข้างเคียงจากการฉีดสารผิดตำแหน่ง

เช่น โบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ที่ฉีดผิดจุด อาจทำให้คิ้วตกมากขึ้นแทนที่จะยกขึ้น

ดังนั้น การเข้าใจ “สาเหตุที่แท้จริง” จึงสำคัญต่อการเลือกวิธีรักษาให้เหมาะสมระหว่าง ศัลยกรรมยกคิ้ว (Brow Lift) และ การฉีด (Injection Treatment)

ยกคิ้ว (Brow Lift) คืออะไร

การยกคิ้ว (Brow Lift) หรือ ศัลยกรรมยกคิ้ว คือการผ่าตัดเพื่อยกตำแหน่งคิ้วและหนังตาส่วนบนให้กลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม ช่วยให้ดวงตาดูเปิด ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น และลดอาการหนังตาตกได้ในคราวเดียว

รู้จัก 4 เทคนิค “ศัลยกรรมยกคิ้ว” ที่ได้รับความนิยม

ยกคิ้ว EBL

1. ยกคิ้วเทคนิค Direct Brow Lift

Direct Brow Lift คือการเปิดแผลตรงเหนือคิ้ว แล้วตัดหนังส่วนเกินออกเพื่อยกแนวคิ้วขึ้นโดยตรง วิธีนี้แพทย์จะทำการเย็บซ่อนแผลแนบไปกับขอบคิ้วให้เนียนที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาหย่อนเยอะเป็นการแก้ไขเฉพาะจุดตรงบริเวณคิ้วโดยตรง

ข้อควรพิจารณา

  • อาจมีรอยแผลบริเวณคิ้ว ซึ่งอาจเห็นชัดในบางราย
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีคิ้วบาง เพราะจะปกปิดรอยแผลได้ยาก

เหมาะกับ : ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่กังวลเรื่องรอยแผลบริเวณใบหน้า

2. ยกคิ้วเทคนิค Pretrichial Brow Lift

Pretrichial Brow Lift คือการเปิดแผลยาวบริเวณไรผมด้านหน้าหน้าผาก (บริเวณเส้นผมด้านบนหน้าผาก) แล้วทำการดึงหนังศีรษะขึ้น เพื่อลดความหย่อนคล้อยทั้งแนวคิ้วและหน้าผาก ยกได้ทั้งแนวคิ้วและลดรอยย่นบนหน้าผาก ซ่อนแผลไว้ที่ไรผม ทำให้ไม่เห็นรอยชัด

ข้อควรพิจารณา

  • ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว
  • อาจรู้สึกตึงหน้าผากในช่วงแรก
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีหน้าผากแคบหรือผมบาง

เหมาะกับ : ผู้ที่มีทั้งคิ้วตกและริ้วรอยหน้าผากลึก ร่วมกับหนังตาหย่อน

ยกคิ้ว EBL
ยกคิ้ว EBL

3. ยกคิ้วเทคนิค Sub-Brow Lift

Sub-Brow Lift หรือบางครั้งเรียกว่า Subbrow Excision คือการผ่าตัดยกคิ้วโดยการเปิดแผลเล็ก ๆ ใต้แนวคิ้ว แล้วตัดผิวหนังและเนื้อเยื่อส่วนเกินออก จากนั้นดึงผิวหนังให้ตึงขึ้นเล็กน้อย เทคนิคนี้ช่วยลดความหย่อนคล้อยของหนังตาบนที่เกิดจากอายุ และช่วยยกหางคิ้วขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัดบริเวณดวงตาโดยตรง

ข้อควรพิจารณา

  • แผลอาจเห็นได้ในบางคนที่มีคิ้วบางหรือไม่มีขนคิ้วปกคลุม
  • ยกได้เฉพาะบริเวณหนังตาและหางคิ้ว ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกทั้งแนวหน้าผาก

เหมาะกับ : ผู้ที่มีปัญหาหนังตาหย่อนในระดับเล็กถึงปานกลาง

4. การผ่าตัดยกคิ้วผ่านกล้อง (Endoscopic Brow Lift หรือ EBL)

การยกคิ้ว EBL (Endoscopic Brow Lift) คือการผ่าตัดโดยใช้กล้องส่องขนาดเล็กช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นใต้ผิวหนังได้ชัดเจนขึ้น และใช้เครื่องมือชื่อว่า Endotine สำหรับตรึงเนื้อเยื่อให้คิ้วยกขึ้นในตำแหน่งใหม่ วิธีนี้ได้รับความนิยมมากเพราะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและมีแผลเล็กที่สุด

ข้อดีของยกคิ้ว EBL

  • เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว
    ไม่มีรอยแผลเป็นที่มองเห็นได้
  • แผลเล็กมาก (1-2 ซม.) อยู่ในแนวไรผม
    โครงสร้างใบหน้าไม่เปลี่ยนผิดธรรมชาติ
  • Endotine จะสลายตัวเองในร่างกายภายใน 6-12 เดือน แต่ผลลัพธ์คิ้วยังคงอยู่ยาวนาน
    ข้อควรพิจารณา
  • ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการส่องกล้อง

เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบธรรมชาติ แผลน้อย ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน โดยเฉพาะในวัย 30–50 ปี

ยกคิ้ว EBL

งานฉีดช่วยแก้คิ้วตกได้แค่ไหน

ในทางกลับกัน “งานฉีด” เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีคิ้วตกเล็กน้อย หรือยังไม่พร้อมสำหรับการทำศัลยกรรม

ประเภทของงานฉีดที่นิยม

  1. Botox (โบท็อกซ์ยกคิ้ว) ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ดึงคิ้วลง และกระตุ้นให้คิ้วยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 4–6 เดือน เหมาะสำหรับอายุ 25–40 ปี ที่คิ้วยังไม่ตกมาก ต้องฉีดซ้ำเป็นระยะเพื่อคงผลลัพธ์
  2. Filler (ฟิลเลอร์ยกคิ้ว) ใช้ฟิลเลอร์เติมเต็มใต้คิ้วหรือขมับ เพื่อยกโครงหน้าส่วนบนให้ดูตึงขึ้น ช่วยลดความลึกของร่องระหว่างคิ้วและเบ้าตา ให้ผลทันทีหลังทำ ผลอยู่ได้ราว 8–12 เดือน และอาจไม่เหมาะกับผู้ที่หนังตาตกมาก
  3. ร้อยไหม (Thread Lift) ใช้ไหมละลายยกเนื้อเยื่อบริเวณคิ้วขึ้น สามารถยกได้เล็กน้อย เหมาะกับผู้ที่ยังไม่อยากผ่าตัดและมีคิ้วตกเพียงเล็กน้อย เห็นผลทันทีหลังทำ ผลอยู่ได้ประมาณ 6–12 เดือน และมีโอกาสกลับมาตกซ้ำ

ยกคิ้ว EBL ทางเลือกยอดนิยมในปี 2025

เทคนิค ยกคิ้ว EBL (Endoscopic Brow Lift) กำลังได้รับความนิยมสูงสุด เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ให้ผลลัพธ์ยกกระชับได้เหมือนผ่าตัดใหญ่ แต่แผลเล็ก ฟื้นตัวไว และดูเป็นธรรมชาติ

DCH EBL Endoscopic 4k

ยกคิ้ว DCH EBL

DCH EBL Endoscopic 4K ใช้เทคโนโลยีการส่องกล้อง (Endoscope) ซึ่งเป็นกล้องขนาดเล็กที่มีความละเอียดสูงระดับ 4K เชื่อมต่อกับจอภาพ ทำให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในบริเวณคิ้วและหน้าผากได้อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องเปิดแผลผ่าตัดขนาดใหญ่ ทีมแพทย์ DCH จะสอดกล้อง Endoscope ผ่านแผลขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ในไรผม จากนั้นใช้เครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็ก ปรับแต่งเนื้อเยื่อและยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณคิ้วและหน้าผาก เพื่อให้ได้รูปทรงคิ้วที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ

ยกคิ้วเทคนิค DCH EBL Endoscopic 4k ดีอย่างไร?

  1. แผลเล็ก : แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กมาก ซ่อนอยู่ในไรผม ทำให้มองเห็นได้ยาก
  2. เจ็บน้อย : การผ่าตัดด้วยเทคนิคส่องกล้อง ช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ ทำให้เจ็บน้อยหลังผ่าตัด
  3. ฟื้นตัวเร็ว : ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติภายในไม่กี่วัน
  4. ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ : คิ้วที่ได้รูปใหม่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งกระด้าง เข้ากับใบหน้า
  5. ปลอดภัย : เป็นการผ่าตัดที่ปลอดภัย มีภาวะแทรกซ้อนน้อย
  6. แม่นยำ : กล้อง Endoscope ความละเอียดสูงระดับ 4K ช่วยให้ศัลยแพทย์มองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน เพิ่มความแม่นยำในการผ่าตัด

ทำศัลยกรรมยกคิ้วที่ไหนดี

ที่ DCH Dr.Chen Surgery Hospital International Center ให้คำปรึกษาได้อย่างตรงจุด ประเมินใบหน้าด้วยโปรแกรมสแกนใบหน้า 3D SCAN เห็นผลก่อนทำ!! ความแม่นยำกว่า 90% ซึ่งเป็นโปรแกรมทางการแพทย์นำเข้าจากสวิสเซอร์แลนด์ และดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ร่วมออกแบบ แก้ไข ตอบโจทย์ตามแบบที่คนไข้ต้องการ

แล้วควรเลือก “ยกคิ้ว” หรือ “ฉีด” ดี?

คำตอบขึ้นอยู่กับ “ระดับความหย่อนคล้อย” และ “ความต้องการของแต่ละคน”

  • หากต้องการผลลัพธ์ ถาวรและเห็นผลชัดเจน → ศัลยกรรมยกคิ้ว โดยเฉพาะเทคนิค EBL คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์
  • หากต้องการผลแบบ ชั่วคราว ไม่ต้องพักฟื้น และงบจำกัด → โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือไหมยกคิ้ว ก็เป็นทางเลือกที่ดีในระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม การเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า เพื่อให้ประเมินโครงสร้างใบหน้าและกล้ามเนื้อของคุณอย่างละเอียด เพราะแต่ละคนมีสาเหตุคิ้วตกแตกต่างกันไป

สรุป ยกคิ้ว EBL ตอบโจทย์ระยะยาวที่สุด

แม้ว่างานฉีดจะเป็นวิธีที่สะดวกและเห็นผลเร็ว แต่สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาคิ้วตกอย่างถาวรโดยไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อย ๆ การเลือก ศัลยกรรมยกคิ้ว EBL (Endoscopic Brow Lift) คือคำตอบที่ดีที่สุดในปี 2025 เพราะให้ผลยกกระชับชัดเจน ดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีรอยแผล และช่วยคืนความสดใสให้ใบหน้าอย่างยาวนาน

DCH Hospital
Author: DCH Hospital

Dr.Chen Writer

line icon
ปรึกษา DCH ฟรี
Written by

DCH Hospital

Dr.Chen Writer

บทความที่เกี่ยวข้อง