ในยุคที่ใคร ๆ ก็อยากดูอ่อนวัย ใบหน้าเต่งตึงไร้ริ้วรอย “การดึงหน้า (Facelift)” กลายเป็นหนึ่งในศัลยกรรมยอดนิยมที่ช่วยคืนความมั่นใจได้อย่างเห็นผล โดยเฉพาะ “ดึงหน้าเทคนิคเกาหลี” ที่กำลังมาแรงในหมู่คนไทยและชาวเอเชีย ด้วยผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่ปลอม และช่วยยกกระชับได้ตรงจุด แต่ก่อนจะตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด สิ่งสำคัญคือ “เลือกที่ไหนดี” และ “เทคนิคไหนปลอดภัยที่สุด” บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจตั้งแต่พื้นฐานของการดึงหน้า ไปจนถึงเทคนิคเกาหลี และคำแนะนำจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ DCH Hospital
1. ทำไมต้อง ดึงหน้า — ความจริงที่หลายคนยังไม่รู้
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวหนังจะสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้เกิดความหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก มุมปากตก หรือใบหน้าดูเศร้า การดึงหน้า (Facelift) คือการผ่าตัดที่ช่วยยกกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อชั้นลึก (ชั้น SMAS) ให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้หลายปีในครั้งเดียว
ต่างจากหัตถการยกกระชับทั่วไปอย่าง Hifu หรือ Ulthera ที่อยู่เพียงชั้นผิวตื้น
การดึงหน้าเหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยมาก หรือเคยทำหัตถการอื่นมาแล้วแต่ผลอยู่ไม่นาน
2. ดึงหน้าเทคนิคเกาหลี คืออะไร? ต่างจากดึงหน้าแบบเดิมยังไง
หนึ่งในเทคนิคยอดนิยมของยุคนี้คือ “ดึงหน้าเทคนิคเกาหลี (Korean Facelift)” ที่เน้นผลลัพธ์ “อ่อนวัยแต่ดูเป็นธรรมชาติ” โดยมีความแตกต่างจากการดึงหน้าแบบดั้งเดิมในหลายด้าน
3. ดึงหน้าเทคนิคเกาหลี มีกี่แบบ
1. ดึงหน้าแบบเต็ม (Full Facelift)
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยทั่วทั้งใบหน้า ตั้งแต่หน้าผาก แก้ม กราม ไปจนถึงลำคอ วิธีนี้จะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูยกกระชับอย่างเห็นได้ชัด
2. ดึงหน้าเฉพาะจุด (Mini Facelift / Mid-Face Lift / Lower Facelift)
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเพียงบางส่วน เช่น ร่องแก้มลึกหรือผิวหย่อนบริเวณล่างของใบหน้า การผ่าตัดใช้เวลาน้อยกว่าและฟื้นตัวเร็วกว่าแบบเต็ม
3. ดึงหน้าร่วมกับการส่องกล้อง
เช่นเทคนิคของ DCH Face Young ที่ใช้เทคโนโลยีส่องกล้องช่วยผ่าตัด เพื่อให้ผลลัพธ์แม่นยำ ลดการบอบช้ำ และฟื้นตัวได้ไวขึ้น
4. ปัจจัยที่มีผลต่อความยาวนานของผลลัพธ์
เทคนิคและความเชี่ยวชาญของแพทย์
เทคนิค DCH Faceyoung ที่เน้นการดึงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ จะให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าการดึงเฉพาะผิว
อายุและสภาพผิวก่อนทำ
ผิวที่มีคอลลาเจนและอีลาสตินดีอยู่แล้ว จะคงความกระชับได้ดีกว่าและฟื้นตัวไวกว่า
การดูแลหลังผ่าตัด
การดูแลที่ถูกวิธี เช่น ประคบเย็น หลีกเลี่ยงแดด และไม่จับแผลแรง ช่วยให้ผลลัพธ์ยาวนานขึ้น
พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนน้อย ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพเร็ว และทำให้ผลดึงหน้าสั้นลง
5. เคล็ดลับดูแลหลังศัลยกรรมดึงหน้าให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
หลีกเลี่ยงการนวดหน้าและสัมผัสแผลแรง ๆ
ในช่วง 1 เดือนแรกหลังผ่าตัด ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือจับหน้าแรง ๆ เพื่อป้องกันแผลเคลื่อนหรือไหมขาด
นอนศีรษะสูงและนอนหงาย
ช่วยลดอาการบวมและทำให้ใบหน้าเข้ารูปเร็วขึ้น
รับประทานอาหารที่ช่วยฟื้นฟูแผล
เช่น โปรตีน วิตามินซี และอาหารเสริมอย่าง Helik VQ247 ที่ช่วยลดบวมและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
หลีกเลี่ยงแดดและความร้อน
รังสี UV ทำให้คอลลาเจนเสื่อมเร็ว ควรทาครีมกันแดดทุกวันแม้อยู่ในร่ม
6. ดึงหน้าเทคนิคเกาหลี ที่ไหนดี เช็ก 4 ข้อก่อนตัดสินใจ
การดึงหน้าเป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องอาศัยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ปลอดภัย หากคุณกำลังมองหา “ดึงหน้าเทคนิคเกาหลีที่ไหนดี” ควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้
1. แพทย์ต้องเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าโดยเฉพาะ
เพราะการดึงหน้าเกี่ยวข้องกับชั้นกล้ามเนื้อและเส้นประสาท การเลือกแพทย์เฉพาะทางช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัย
2. สถานพยาบาลต้องได้มาตรฐานระดับโรงพยาบาล
มีห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ ทีมวิสัญญีแพทย์ และอุปกรณ์ช่วยชีวิตครบถ้วน
3. มีรีวิวและเคสจริงที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
รีวิวจากผู้ใช้บริการจริงช่วยให้เห็นคุณภาพของผลลัพธ์และแนวทางการดูแลของแพทย์
4. บริการหลังการผ่าตัดต้องครบวงจร
การติดตามอาการ การนัดตรวจซ้ำ และโปรแกรมฟื้นฟูหลังผ่าตัดล้วนมีผลต่อผลลัพธ์ระยะยาว
สรุป ดึงหน้าเทคนิคเกาหลีที่ไหนดี
การ “ดึงหน้าเทคนิคเกาหลี” เป็นศัลยกรรมที่ช่วยให้ใบหน้ากลับมาอ่อนเยาว์และดูเป็นธรรมชาติที่สุด แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงเทคนิคการผ่าตัดเท่านั้น — การเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ทีมแพทย์เฉพาะทาง และการดูแลหลังผ่าตัดอย่างครบวงจรคือหัวใจของความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่คุ้มค่า หากคุณกำลังมองหาการดึงหน้าที่ผสมผสานเทคโนโลยีและศิลปะแห่งความงามในแบบเกาหลี DCH Facelift คือคำตอบที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ
Author: DCH Hospital
Dr.Chen Writer

