ปี 2568 นี้ “ศัลยกรรมยกคิ้ว” กลับมาเป็นเทรนด์ฮอตอีกครั้งในวงการความงาม โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงาน อายุ 30+ ที่เริ่มมีปัญหาหางตาตก คิ้วตก หรือใบหน้าดูเหนื่อยล้าแม้ไม่ได้เหนื่อยจริง ปัจจุบันเทคนิคยกคิ้วพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนที่สนใจเริ่มค้นหาข้อมูล เช่น “ยกคิ้ว EBL”, “ศัลยกรรมยกคิ้ว” หรือ “ยกคิ้วebl” บน Google เพิ่มมากขึ้น
วันนี้เราจึงขอพาคุณมาส่องเทรนด์ “ยกคิ้วปี 2568”
พร้อมเจาะลึกความต่างของแต่ละเทคนิค เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ!
ศัลยกรรมยกคิ้วคืออะไร
ศัลยกรรมยกคิ้ว (Brow Lift) หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “ยกคิ้ว” คือการผ่าตัดเพื่อปรับตำแหน่งของคิ้วให้สูงขึ้น โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อแก้ไขปัญหา:
- คิ้วตก หรือหางคิ้วตก
- หนังตาหย่อนคล้อยจนบดบังดวงตา
- ใบหน้าดูเศร้า เหนื่อยล้า หรือดูมีอายุ
- ความไม่สมดุลของคิ้วทั้งสองข้าง
การยกคิ้วไม่เพียงช่วยให้ดวงตาดูเปิดกว้าง สดใสขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วย ปรับภาพรวมของใบหน้าให้ดูเด็ก
ทำไม “ศัลยกรรมยกคิ้ว” ถึงกลายเป็นเทรนด์ในปี 2568
เนื่องจากการยกคิ้วไม่ใช่แค่การยกหางคิ้วให้ดูเฉี่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็น การปรับภาพรวมของใบหน้าให้ดูสดใส อ่อนเยาว์ และเปิดดวงตาให้ดูชัดเจนขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งการแต่งหน้าเยอะ เทคนิคยกคิ้วจึงตอบโจทย์ทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่อยากดูดีขึ้นแบบ “เป็นธรรมชาติแต่เห็นผล” อีกเหตุผลหนึ่งคือ หลายคนเริ่มมองหา ทางเลือกแทนโบท็อกซ์ หรือฟิลเลอร์ที่ต้องเติมบ่อย การผ่าตัดยกคิ้วจึงกลายเป็นการลงทุนความงามระยะยาว
ทำไม “ศัลยกรรมยกคิ้ว” ถึงฮิต
1. เทรนด์ใบหน้าสไตล์เกาหลี-สายฝอมาแรง
ใบหน้าสวยสไตล์ดาราเกาหลีหรือสายฝรั่งมักจะมี “ดวงตาที่สดใสและยกหางตาเล็กน้อย” การยกคิ้วทำให้ได้ทรงคิ้วและตาที่เหมาะกับเทรนด์โดยไม่ต้องแต่งหน้าเยอะ
2. ถ่ายรูปขึ้น กล้องจับแสงได้ดี
คิ้วตกหรือหางตาตกทำให้หน้าดูหม่น ยกคิ้วช่วยเปิดดวงตา ทำให้ภาพเซลฟี่ดูสดใสขึ้นทันที
3. ผลลัพธ์ดูอ่อนเยาว์แบบไม่โป๊ะ
ต่างจากการดึงหน้าหนักๆ การยกคิ้วช่วยให้ใบหน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่เสียทรงเดิมของใบหน้า
4. เหมาะกับคนที่ไม่อยากผ่าตัดใหญ่
EBL ถือเป็นเทคนิคกึ่งศัลยกรรม แผลเล็ก ทำไว ฟื้นตัวง่าย คนที่ไม่พร้อมผ่าตัดใหญ่ก็สามารถเริ่มต้นด้วยยกคิ้วได้
รู้จัก 4 เทคนิค “ศัลยกรรมยกคิ้ว” ที่ได้รับความนิยม

1. ยกคิ้วเทคนิค Direct Brow Lift
Direct Brow Lift คือการเปิดแผลตรงเหนือคิ้ว แล้วตัดหนังส่วนเกินออกเพื่อยกแนวคิ้วขึ้นโดยตรง วิธีนี้แพทย์จะทำการเย็บซ่อนแผลแนบไปกับขอบคิ้วให้เนียนที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาหย่อนเยอะเป็นการแก้ไขเฉพาะจุดตรงบริเวณคิ้วโดยตรง
ข้อควรพิจารณา
- อาจมีรอยแผลบริเวณคิ้ว ซึ่งอาจเห็นชัดในบางราย
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีคิ้วบาง เพราะจะปกปิดรอยแผลได้ยาก
เหมาะกับ : ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่กังวลเรื่องรอยแผลบริเวณใบหน้า
2. ยกคิ้วเทคนิค Pretrichial Brow Lift
Pretrichial Brow Lift คือการเปิดแผลยาวบริเวณไรผมด้านหน้าหน้าผาก (บริเวณเส้นผมด้านบนหน้าผาก) แล้วทำการดึงหนังศีรษะขึ้น เพื่อลดความหย่อนคล้อยทั้งแนวคิ้วและหน้าผาก ยกได้ทั้งแนวคิ้วและลดรอยย่นบนหน้าผาก ซ่อนแผลไว้ที่ไรผม ทำให้ไม่เห็นรอยชัด
ข้อควรพิจารณา
- ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว
- อาจรู้สึกตึงหน้าผากในช่วงแรก
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีหน้าผากแคบหรือผมบาง
เหมาะกับ : ผู้ที่มีทั้งคิ้วตกและริ้วรอยหน้าผากลึก ร่วมกับหนังตาหย่อน


3. ยกคิ้วเทคนิค Sub-Brow Lift
Sub-Brow Lift หรือบางครั้งเรียกว่า Subbrow Excision คือการผ่าตัดยกคิ้วโดยการเปิดแผลเล็ก ๆ ใต้แนวคิ้ว แล้วตัดผิวหนังและเนื้อเยื่อส่วนเกินออก จากนั้นดึงผิวหนังให้ตึงขึ้นเล็กน้อย เทคนิคนี้ช่วยลดความหย่อนคล้อยของหนังตาบนที่เกิดจากอายุ และช่วยยกหางคิ้วขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัดบริเวณดวงตาโดยตรง
ข้อควรพิจารณา
- แผลอาจเห็นได้ในบางคนที่มีคิ้วบางหรือไม่มีขนคิ้วปกคลุม
- ยกได้เฉพาะบริเวณหนังตาและหางคิ้ว ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกทั้งแนวหน้าผาก
เหมาะกับ : ผู้ที่มีปัญหาหนังตาหย่อนในระดับเล็กถึงปานกลาง
4. การผ่าตัดยกคิ้วผ่านกล้อง (Endoscopic Brow Lift หรือ EBL)
การยกคิ้ว EBL (Endoscopic Brow Lift) คือการผ่าตัดโดยใช้กล้องส่องขนาดเล็กช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นใต้ผิวหนังได้ชัดเจนขึ้น และใช้เครื่องมือชื่อว่า Endotine สำหรับตรึงเนื้อเยื่อให้คิ้วยกขึ้นในตำแหน่งใหม่ วิธีนี้ได้รับความนิยมมากเพราะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและมีแผลเล็กที่สุด
ข้อดีของยกคิ้ว EBL
- เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว
ไม่มีรอยแผลเป็นที่มองเห็นได้ - แผลเล็กมาก (1-2 ซม.) อยู่ในแนวไรผม
โครงสร้างใบหน้าไม่เปลี่ยนผิดธรรมชาติ - Endotine จะสลายตัวเองในร่างกายภายใน 6-12 เดือน แต่ผลลัพธ์คิ้วยังคงอยู่ยาวนาน
ข้อควรพิจารณา - ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการส่องกล้อง
เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบธรรมชาติ แผลน้อย ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน โดยเฉพาะในวัย 30–50 ปี

คำถามยอดฮิตก่อนตัดสินใจ “ยกคิ้ว EBL”
ระหว่างผ่าตัดจะใช้ยาชาหรือยาสลบ (แล้วแต่แพทย์ประเมิน) หลังผ่าตัดอาจรู้สึกตึง ๆ ที่บริเวณหน้าผากประมาณ 2–3 วัน และมีอาการบวมเล็กน้อย
โดยทั่วไปสามารถลางานประมาณ 5–7 วัน และกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่อาจต้องงดออกกำลังกายหนัก ๆ สักพัก
ไม่เลยค่ะ! เพราะแผลจะซ่อนอยู่ในไรผม และเมื่อแผลหายแล้วจะมองแทบไม่เห็น
ทำไม “ยกคิ้ว EBL” ถึงกลายเป็นที่นิยมในปี 2568
- เทรนด์ความงามแบบ “Natural Look” กำลังมาแรง
- เป็นทางเลือกกลางระหว่างไม่ต้องผ่าตัด กับการผ่าตัดใหญ่
- การยกคิ้วช่วยเปิดดวงตา และทำให้หน้าดูเด็กลงแบบไม่ต้องเปลี่ยนโครงหน้า
DCH EBL Endoscopic 4k

DCH EBL Endoscopic 4K ใช้เทคโนโลยีการส่องกล้อง (Endoscope) ซึ่งเป็นกล้องขนาดเล็กที่มีความละเอียดสูงระดับ 4K เชื่อมต่อกับจอภาพ ทำให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในบริเวณคิ้วและหน้าผากได้อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องเปิดแผลผ่าตัดขนาดใหญ่ ทีมแพทย์ DCH จะสอดกล้อง Endoscope ผ่านแผลขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ในไรผม จากนั้นใช้เครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็ก ปรับแต่งเนื้อเยื่อและยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณคิ้วและหน้าผาก เพื่อให้ได้รูปทรงคิ้วที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ
ยกคิ้วเทคนิค DCH EBL Endoscopic 4k ดีอย่างไร?
- แผลเล็ก : แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กมาก ซ่อนอยู่ในไรผม ทำให้มองเห็นได้ยาก
- เจ็บน้อย : การผ่าตัดด้วยเทคนิคส่องกล้อง ช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ ทำให้เจ็บน้อยหลังผ่าตัด
- ฟื้นตัวเร็ว : ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติภายในไม่กี่วัน
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ : คิ้วที่ได้รูปใหม่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งกระด้าง เข้ากับใบหน้า
- ปลอดภัย : เป็นการผ่าตัดที่ปลอดภัย มีภาวะแทรกซ้อนน้อย
- แม่นยำ : กล้อง Endoscope ความละเอียดสูงระดับ 4K ช่วยให้ศัลยแพทย์มองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน เพิ่มความแม่นยำในการผ่าตัด
ทำศัลยกรรมยกคิ้วที่ไหนดี
ที่ DCH Dr.Chen Surgery Hospital International Center ให้คำปรึกษาได้อย่างตรงจุด ประเมินใบหน้าด้วยโปรแกรมสแกนใบหน้า 3D SCAN เห็นผลก่อนทำ!! ความแม่นยำกว่า 90% ซึ่งเป็นโปรแกรมทางการแพทย์นำเข้าจากสวิสเซอร์แลนด์ และดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ร่วมออกแบบ แก้ไข ตอบโจทย์ตามแบบที่คนไข้ต้องการ

Author: Marketing Dr.Chen
