ดูดไขมันเหนียงเจ็บไหม?
“อยากหน้าเรียว กรอบหน้าชัด แต่กลัวเจ็บ” หลายคนที่สนใจ ดูดไขมันหน้า โดยเฉพาะบริเวณ “เหนียง” หรือใต้คาง มักมีคำถามแรกๆ ที่เกิดขึ้นคือ “ดูดไขมันเหนียงเจ็บไหม?”
วันนี้เราจะพาไปไขคำตอบอย่างตรงไปตรงมา พร้อมแนะนำทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับคนที่มีไขมันสะสมบริเวณเหนียงแม้น้ำหนักตัวไม่มากก็ตาม
เหนียงเกิดจากอะไร? ทำไมลดน้ำหนักแล้วไม่หาย
แม้การ ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย จะช่วยลดน้ำหนักโดยรวม แต่ไขมันบริเวณ “เหนียง” หรือ “ใต้คาง” เป็นไขมันเฉพาะจุดที่มักลดได้ยาก
ปัจจัยที่ทำให้เหนียงชัดขึ้น เช่น
- พันธุกรรม (โครงหน้า คางสั้น)
- อายุที่มากขึ้นทำให้ผิวหย่อน
- ภาวะไขมันสะสมในร่างกาย
- น้ำหนักตัวมาก หรือมีแนวโน้ม โรคอ้วน
ในบางคนแม้น้ำหนักไม่ได้จัดว่าเยอะ แต่ก็มี “เหนียง” อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเหตุผลที่หลายคนมองหาทางเลือกเสริม เช่น การดูดไขมันหน้า เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะจุด
แล้วดูดไขมันเหนียงเจ็บไหม?
คำตอบคือ: มีความรู้สึกบ้าง แต่ไม่เจ็บเท่าที่คิด
การดูดไขมันเหนียงในปัจจุบันมีเทคโนโลยีและเทคนิคที่พัฒนาไปไกลมาก ทำให้สามารถทำหัตถการได้อย่าง ปลอดภัย เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว
โดยทั่วไปจะมีขั้นตอนดังนี้
- วางแผนโดยแพทย์เฉพาะทาง วิเคราะห์โครงหน้า ปริมาณไขมัน และโครงสร้างผิว
- ให้ยาชาเฉพาะจุด หรือบางรายอาจมีการให้ยาคลายกังวลร่วมด้วย
- เปิดแผลขนาดเล็ก (ประมาณ 3-5 มม.) บริเวณใต้คางหรือหลังใบหู
- ใช้เครื่องมือดูดไขมันเฉพาะจุด ที่ไม่กระทบเนื้อเยื่อโดยรอบ
ผู้รับบริการส่วนใหญ่มักรู้สึกแค่ “ตึง ๆ” หรือ “อึดอัดเล็กน้อย” ขณะทำ แพทย์จะประเมินความรู้สึกอย่างใกล้ชิดตลอดกระบวนการ
เหมาะกับใคร? คนแบบไหนควรดูดไขมันเหนียง
- ผู้ที่มี เหนียงชัด แม้มีน้ำหนักตัวไม่มาก
- ผู้ที่มีโครงหน้าไม่ชัดเจน เช่น คางสั้นหรือหน้ากลม
- ผู้ที่เคยลดน้ำหนักแล้วแต่เหนียงไม่ยุบ
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้นโดยไม่ผ่าตัดใหญ่
ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด (และไม่อยู่ในเกณฑ์ โรคอ้วนระดับรุนแรง)
ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนดูดไขมันเหนียง?
เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และมีแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมดูแล
ข้อควรปฏิบัติก่อนเข้ารับบริการ เช่น
- งดยา วิตามิน และอาหารเสริมบางชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- แจ้งโรคประจำตัวหรือการแพ้ยากับแพทย์ก่อนทุกครั้ง
ผลลัพธ์หลังดูดไขมันเหนียง
ภายใน 2-3 สัปดาห์ ใบหน้าจะเริ่มเข้ารูป กรอบหน้าชัดขึ้น เหนียงลดลง ใบหน้าโดยรวมดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่โทรมหรือเปลี่ยนรูปหน้าจนผิดสังเกต
แม้น้ำหนักจะไม่ลดลงมาก แต่รูปหน้าที่เปลี่ยนไปช่วยให้ดูผอมลงอย่างชัดเจน
เพิ่มความมั่นใจ ใส่เสื้อคอกว้าง ถ่ายรูปมุมข้างได้อย่างไม่ต้องหลบกล้องอีกต่อไป
ดูดไขมันเหนียง ต้องทำที่ไหนดี?
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและความปลอดภัยสูงสุด แนะนำให้เลือกสถานพยาบาลที่…
- ได้รับใบอนุญาตประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุข
- มีแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งหรือศัลยกรรมใบหน้า
- ใช้เครื่องมือมาตรฐานทางการแพทย์
มีระบบติดตามอาการหลังทำ และแผนการดูแลต่อเนื่อง
ดูดไขมันเหนียงไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
“ดูดไขมันเหนียงเจ็บไหม?” คำตอบคือไม่เจ็บอย่างที่หลายคนกังวลค่ะ เพราะปัจจุบันมีเทคนิคที่ทันสมัย เน้นความปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุดบริเวณหน้า ไม่ตอบสนองต่อการลดน้ำหนักแบบทั่วไป
หากคุณกำลังมองหาวิธีปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น ลดไขมันเหนียงโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ การดูดไขมันเหนียงอาจเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ
(FAQ) คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมันเหนียง
ดูดไขมันเหนียงใช้เวลานานไหม?
ตอบ: โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 30–60 นาที ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและความซับซ้อนของแต่ละราย เคสส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้ภายในวันเดียว
ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?
ตอบ: พักฟื้นเพียง 1–3 วัน โดยแนะนำให้ใส่ผ้ารัดหน้า (Face Compression) ต่อเนื่องประมาณ 5–7 วัน เพื่อช่วยให้ใบหน้ากระชับและบวมน้อยลง
ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม?
ตอบ: หากดูแลสุขภาพและน้ำหนักไม่เพิ่มขึ้นมาก ไขมันที่ถูกดูดออกจะไม่กลับมาอีก โดยผลลัพธ์สามารถอยู่ได้อย่างยาวนานและถาวรในระดับหนึ่ง
ดูดไขมันเหนียงช่วยรักษาโรคอ้วนได้หรือไม่?
ตอบ: ไม่ได้ค่ะ การดูดไขมันไม่ใช่วิธีรักษาโรคอ้วน แต่เป็นการแก้ปัญหาไขมันเฉพาะจุด สำหรับผู้ที่มีรูปร่างปกติแต่มีไขมันสะสมในบางบริเวณ เช่น ใบหน้า เหนียง ต้นแขน ต้นขา

Author: Marketing Dr.Chen
