ซิลิโคนหน้าอก ถือเป็นวัสดุทางการแพทย์ที่ใช้ในการเสริมหน้าอกหรือศัลยกรรมหน้าอกอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่การ เสริมหน้าอก กลายเป็นหัตถการยอดนิยมที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้หญิงยุคใหม่ อย่างไรก็ตาม แม้เทคโนโลยีของซิลิโคนจะพัฒนาจนมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ยังมีโอกาสที่ “ซิลิโคนหน้าอกแตก” หรือ “รั่วซึม” ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่หลายคนมองข้าม
ซิลิโคนหน้าอกแตก คืออะไร?
โดยทั่วไปแล้ว ซิลิโคนเสริมหน้าอกที่ใช้ในทางการแพทย์จะมี 2 ประเภทหลัก ได้แก่
- ซิลิโคนเจล (Silicone Gel) เป็นซิลิโคนที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากให้สัมผัสใกล้เคียงกับเต้านมจริง
- ซิลิโคนแบบน้ำเกลือ (Saline) จะมีน้ำเกลืออยู่ภายใน หากแตกจะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้
การที่ ซิลิโคนหน้าอกแตก หมายถึง “เปลือกหุ้มซิลิโคนเกิดรอยร้าวหรือฉีกขาด” ทำให้สารภายในรั่วออกมา ซึ่งในบางรายอาจไม่แสดงอาการ (silent rupture) แต่ในบางกรณีก็อาจแสดงอาการผิดปกติชัดเจน
อันตรายจากซิลิโคนหน้าอกแตก
อ้างอิงตามแนวทางของแพทยสภาและข้อมูลทางวิชาการ การที่ซิลิโคนหน้าอกแตกอาจก่อให้เกิดปัญหาดังนี้
1. ปวดตึงหรือเจ็บหน้าอก
หากเกิดการแตกอย่างเฉียบพลัน ร่างกายอาจมีปฏิกิริยาต่อซิลิโคนเจล เช่น เกิดอาการปวด บวม หรือรู้สึกไม่สบายบริเวณหน้าอก
2. เต้านมผิดรูปหรือไม่สมมาตร
เมื่อซิลิโคนรั่วออกนอกรูปทรงที่ควรเป็น อาจทำให้หน้าอกดูยุบผิดปกติ หรือเกิดก้อนแข็งที่คลำได้
3. พังผืดรัดรอบซิลิโคน (Capsular Contracture)
เมื่อร่างกายพยายามป้องกันซิลิโคนที่รั่ว อาจสร้างพังผืดจนรัดแน่น ทำให้หน้าอกแข็งผิดปกติและเจ็บมาก
4. การอักเสบและติดเชื้อ
หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที ซิลิโคนที่รั่วอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบหรือกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย
5. กระจายของซิลิโคนไปยังต่อมน้ำเหลือง
มีรายงานทางการแพทย์ว่าในบางกรณี ซิลิโคนเจลอาจแพร่กระจายไปตามต่อมน้ำเหลือง ทำให้ตรวจพบก้อนผิดปกติ
“ คำแนะนำจากแพทย์: ซิลิโคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะแบบ “Cohesive Gel” จะมีความหนาแน่นสูง หากเกิดการรั่ว เจลจะไม่ไหลกระจายทันทีเหมือนรุ่นเก่า แต่ยังคงแนะนำให้ตรวจสอบและ แก้หน้าอก โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหากสงสัยว่าซิลิโคนแตก ”
สัญญาณเตือนว่าซิลิโคนหน้าอกอาจแตก
- หน้าอกมีรูปร่างเปลี่ยนไป หรือผิดรูป
- คลำเจอก้อนแข็งในเต้านม
- รู้สึกเจ็บ บวม หรือแน่นบริเวณหน้าอก
- มีอาการชา หรือความรู้สึกผิด
- ปกติบริเวณผิวหนังรอบเต้านม
- มีการอักเสบหรือแดงร้อน
หากซิลิโคนแตก ควรทำอย่างไร?
หากตรวจพบว่าซิลิโคนหน้าอกแตก หรือสงสัยว่ามีปัญหา ควร:
- หยุดการบีบนวดหรือกระตุ้นบริเวณหน้าอกทันที
- เข้ารับการตรวจประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- วางแผนการผ่าตัดแก้หน้าอก (Breast Revision Surgery) โดยเฉพาะกับซิลิโคนที่รั่วซึม
การแก้หน้าอกจากกรณีซิลิโคนแตก
การผ่าตัด แก้หน้าอก มีจุดประสงค์เพื่อ:
- เอาซิลิโคนเก่าออก
- ทำความสะอาดเนื้อเยื่อทีอาจมีสารซิลิโคนรั่ว
- เปลี่ยนซิลิโคนใหม่ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับสรีระมากขึ้น
ในหลายเคส แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ ซิลิโคนเสริมหน้าอกรุ่นใหม่ ที่มีคุณสมบัติป้องกันการรั่วซึมสูง เช่น MENTOR หรือ MOTIVA ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานระดับโลก

ซิลิโคนหน้าอกแตก อันตรายจริงหรือ?
แม้ซิลิโคนหน้าอกจะแตกได้ยาก โดยเฉพาะรุ่นใหม่ แต่หากเกิดขึ้นจริงก็สามารถก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ หากปล่อยไว้นานโดยไม่ตรวจสอบ อาจนำไปสู่การอักเสบ การติดเชื้อ หรือปัญหาเต้านมผิดรูป ดังนั้นหากคุณทำ ศัลยกรรมหน้าอก มาแล้วหลายปี หรือสงสัยในความผิดปกติ อย่ารอช้า ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการ แก้หน้าอก อย่างถูกต้อง เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยในระยะยาว

Author: DCH Hospital
Dr.Chen Writer
