ศัลยกรรม คาง
เสริมคาง (Chin Augmentation)
ปรับรูปหน้าสมส่วนด้วยซิลิโคน ปรับหน้าเรียวสวยมีมิติ
เสริมคาง (Chin Augmentation) คืออะไร? การศัลยกรรมเพื่อแก้ปัญหาคางสั้น และใบหน้ากลม การเสริมคางเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับสาวๆ ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูยาวขึ้นและมีมิติ โดยเฉพาะผู้ที่มีคางสั้นหรือคางเล็ก ซึ่งทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติและเรียวสวย การเสริมคางในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยาก และยังสามารถทำได้โดยไม่มีแผลภายนอกให้เห็น เนื่องจากการผ่าตัดจะทำภายในช่องปากในบริเวณซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง ซึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องแผลที่เห็นชัดบนใบหน้า
สำหรับใครที่กำลังมีข้อสงสัยว่าเสริมคางหน้าเปลี่ยนไหม เสริมคางที่ไหนดี มีวิธีการดูแล ตัวเองทั้งก่อนและหลังเสริมคางยังไงเพื่อให้คางเข้าที่เร็ว ไม่มีผลข้างเคียง ใครเหมาะเสริมคางบ้าง รวมถึงมีเทคนิคเฉพาะ เพื่อให้คางไม่เบี้ยวไม่เอียงยึดแน่นทั้งบนล่าง ซ้าย ขวา และหน้าหลังอย่างลงตัวและ ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยเป็นธรรมชาติ
คางเรียวสวยได้ใน 1 วัน เคล็ดลับเสริมคางที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
การเสริมคางเพื่อให้ได้คางเรียวสวยภายใน 1 วันเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถแก้ไขปัญหาคางสั้น คางใหญ่ หรือคางที่ไม่มีมิติได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้เวลานานในการฟื้นตัว นี่คือเคล็ดลับที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจเสริมคาง คือ
- การเลือกวิธีการเสริมคาง
การเสริมคางสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การเปิดแผลภายในช่องปาก หรือการเปิดแผลภายนอกที่ใต้คาง โดยวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการเปิดแผลในช่องปาก เนื่องจากไม่มีแผลภายนอกให้เห็น และฟื้นตัวได้เร็ว
- การเสริมคางไร้แผล
หนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากคือการเสริมคางโดยเปิดแผลในช่องปาก วิธีนี้จะไม่ทิ้งแผลเป็นที่เห็นจากภายนอก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องแผลที่มองเห็น นอกจากนี้ยังช่วยให้ฟื้นตัวเร็วและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ภายในเวลาอันสั้น
- ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
การเสริมคางช่วยปรับรูปหน้าให้ดูยาวขึ้นและมีมิติที่ชัดเจนขึ้น แต่ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับลักษณะใบหน้าของแต่ละบุคคล ดังนั้นการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินโครงหน้าก่อนจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีตามต้องการ
- การเลือกโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การเลือกสถานที่ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการผ่าตัดเสริมคางต้องการความละเอียดและความเข้าใจในโครงสร้างใบหน้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- การดูแลหลังการผ่าตัด
หลังการเสริมคาง การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แผลหายเร็วและหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการรักษาความสะอาดในช่องปาก และหลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
การเสริมคางด้วยซิลิโคน
การเสริมคางด้วยซิลิโคนเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาคางสั้นหรือคางที่ไม่มีมิติให้ดูสวยสมส่วนขึ้น โดยการเสริมคางสามารถทำได้ทั้งในลักษณะการเปิดแผลภายนอกหรือภายในช่องปาก ขึ้นอยู่กับความต้องการและความสะดวกของผู้รับการผ่าตัด อาจจะทำได้ 2 วิธี คือ
วิธีที่ 1 การเปิดแผลภายนอก การเสริมคางโดยการเปิดแผลภายนอกจะเป็นการเปิดแผลใต้คางเพื่อวางแท่งซิลิโคนเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ วิธีนี้แม้ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีแต่จะทิ้งรอยแผลเป็นไว้บริเวณใต้คาง แม้ว่าแผลจะหายสนิทแล้ว แต่บางครั้งแผลเป็นอาจจะยังคงเห็นชัดเจน ซึ่งทำให้การเลือกใช้วิธีนี้น้อยกว่าการเปิดแผลในปาก
วิธีที่ 2 การเปิดแผลในปาก (เทคนิคที่ได้รับความนิยมสูง) วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันคือการเปิดแผลภายในปาก โดยทำการเปิดแผลที่ซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง ความยาวของแผลจะอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 ซม. ซึ่งจะไม่สามารถเห็นแผลจากภายนอกได้ การผ่าตัดในช่องปากนี้มีข้อดีคือไม่ทิ้งรอยแผลเป็นที่มองเห็นได้ และสามารถฟื้นตัวได้เร็ว เนื่องจากแผลอยู่ในพื้นที่ที่ไม่โดนสัมผัสหรือถูกรบกวนจากภายนอก
ลักษณะของซิลิโคนเสริมคางมีกี่แบบ?
การเลือกซิลิโคนสำหรับเสริมคางเป็นขั้นตอนสำคัญในการปรับรูปหน้าที่เหมาะสม โดยซิลิโคนเสริมคางที่นิยมใช้อยู่ในปัจจุบันมี 2 แบบหลัก คือ
- ซิลิโคนคางแบบไม่มีขา (ขาสั้น)
- ลักษณะซิลิโคนไม่มีส่วนที่ยื่นออกมาทั้งสองข้าง ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความนูนเฉพาะบริเวณปลายคาง
- ข้อดี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับคางให้เรียวและยาวขึ้นเล็กน้อย ซิลิโคนมีขนาดเล็กและนิ่ม ยืดหยุ่นดี สามารถเข้ารูปกับกระดูกปลายคางได้ง่าย ช่วยเสริมใบหน้าให้ได้รูปทรง V Shape ที่สวยงาม
- ข้อด้อย มีข้อจำกัดในการใช้สำหรับรูปหน้าที่ใหญ่หรือกรามชัดเจน ไม่เหมาะกับคนที่มีโครงหน้าใหญ่หรือแก้มเยอ ซิลิโคนที่นิ่มและยืดหยุ่นมาก อาจคลาดเคลื่อนในตำแหน่งเมื่อเวลาผ่านไป
- ซิลิโคนคางแบบขายาว
- ลักษณะมีส่วนที่ยื่นออกมาทั้งสองข้าง เพื่อปรับรูปทรงโครงกระดูกคางและกรอบหน้า มักใช้สำหรับการเสริมคางในผู้ที่มีโครงหน้ากว้าง
- ข้อดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขคางและโครงหน้าในระดับใหญ่ เช่น ปรับกรอบหน้าให้เรียวลงให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติ สามารถรองรับโครงสร้างกระดูกได้ดี และลดโอกาสเกิดปัญหาซิลิโคนเคลื่อนที่
- ข้อด้อย เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่าซิลิโคนขาสั้น อาจต้องใช้ระยะเวลาฟื้นตัวนานกว่า ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
ซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมคางมีกี่ชนิด?
การเลือก ซิลิโคนเสริมคาง ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ความงามและความปลอดภัยของการศัลยกรรม โดยทั่วไป ซิลิโคนสำหรับเสริมคาง แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
1. ซิลิโคนเกาหลี (Korea Silicone)
- มีจุดเด่นตรงที่มีความนุ่มมาก ทำให้เวลาเสริมจะได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ แต่ในระยะยาวก็อาจมีโอกาสยุบตัวได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเนื้อคางของแต่ละคนด้วย
2. ซิลิโคนอเมริกา (USA Silicone)
- ซิลิโคนอเมริกาเป็นซิลิโคนที่มีมาตรฐานพิเศษ มีค่าความบริสุทธิ์ของซิลิโคนสูงมาก (Medical grade silicone) ซึ่งเป็นเกรดทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในวงการ ของศัลยกรรมความงาม ว่ามีความปลอดภัยต่อร่างกาย เนื้อเนียนละเอียด มีความยืดหยุ่นสูง มีความนิ่มปานกลาง เหมาะที่จะขึ้นรูปได้ง่าย
การเสริมคางมีกี่รูปแบบ? เลือกรูปคางแบบไหนให้เหมาะกับตัวเรา
การเสริมคางเป็นศัลยกรรมที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน สวยงาม และแก้ไขปัญหาคางที่ไม่เหมาะสม เช่น คางสั้น คางบุ๋ม หรือคางตัด การเลือกทรงคางที่เหมาะสมกับใบหน้าของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและเสริมสร้างบุคลิกภาพอย่างมั่นใจ โดยรูปแบบของคางที่ได้รับความนิยม
คางรูปทรงปลายวีเชฟ (V-Shape)
ลักษณะ ใบหน้ามีความเรียวและปลายคางเป็นรูปตัววี เหมาะสำหรับคนที่มีกรามไม่ชัดหรือใบหน้าเล็ก
ข้อดี ช่วยปรับใบหน้าให้ดูสมส่วนและเรียวเล็กตามสัดส่วนที่นิยมในระดับสากล
คางรูปทรงวีมน
ลักษณะ ปลายคางเฉียงลงมาเล็กน้อย (45 องศา) ดูหวานละมุน เหมาะสำหรับคนที่มีแก้มหรือโหนกแก้มเด่น
ข้อดี ช่วยปรับใบหน้าให้ดูยาวสมส่วน ไม่แหลมจนเกินไป
คางรูปทรงยาวเรียวมน (สไตล์เกาหลี)
ลักษณะ ปลายคางมีความเรียวยาว ดูละมุน เหมาะกับคนที่มีโครงหน้าแมนหรือต้องการใบหน้าหวาน
ข้อดี ช่วยลบมุมเหลี่ยมปลายคาง ทำให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติ
คางรูปทรงเรียวเล็ก (สายฝอ)
ลักษณะ ใบหน้ามีความคมชัด คล้ายใบหน้าของชาวยุโรป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลุคอินเตอร์
ข้อดี ช่วยให้ใบหน้าดูยาว คม และเรียวเล็ก
5. คางรูปทรงป้านเหลี่ยม แต่เรียว
ลักษณะ คางดูป้านและเรียว เหมาะกับการเสริมคางของผู้ชายที่ต้องการความคมชัด
ข้อดี ทำให้ใบหน้าดูแมนและมีความเข้มขึ้น
6. คางหน้าเรียว Triple Natural Lock
ลักษณะ เทคนิคเฉพาะที่ปรับรูปหน้าให้เรียวโดยไม่เห็นรอยต่อของซิลิโคน
ข้อดี ไม่มีรอยแผลพักฟื้นเร็ว และซิลิโคนไม่เลื่อน เหมาะกับทุกรูปหน้า
วิธีเลือกทรงคางให้เหมาะกับตัวเอง
- ประเมินรูปหน้าปัจจุบัน วิเคราะห์ใบหน้าของคุณว่าเหมาะกับคางทรงใด
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์จะช่วยแนะนำรูปทรงที่เหมาะสมและเข้ากับโครงสร้างกระดูกของคุณ
- พิจารณาความต้องการส่วนตัว เลือกรูปทรงที่สอดคล้องกับสไตล์ที่คุณชื่นชอบ
ตะไบฐานกระดูกคาง เทคนิคพิเศษเพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบจาก
Dr.CHEN Surgery Hospital
การตะไบฐานกระดูกคางที่ Dr.CHEN Surgery Hospital เป็นเทคนิคพิเศษที่ช่วยให้การเสริมคางได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและสวยงามมากยิ่งขึ้น การปรับฐานกระดูกให้เรียบและเหมาะสมกับซิลิโคนช่วยให้ซิลิโคนแนบตัวได้ดีขึ้น ลดปัญหาการเบี้ยวเอียงหลังการผ่าตัด และช่วยให้ทรงคางดูสมดุลกับใบหน้าในระยะยาว หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่สวยงามและมั่นใจ
ศัลยกรรมเสริมคาง ต่างจากการฉีดฟิลเลอร์คางอย่างไร ?
การปรับรูปร่างหรือขนาดของคางเป็นหนึ่งในวิธีการที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและปรับสมดุลของใบหน้าให้ดูสมส่วนมากขึ้น โดยมีสองวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่ ศัลยกรรมคาง และ การฉีดฟิลเลอร์คาง ซึ่งแต่ละวิธีมีความแตกต่างในเรื่องของกระบวนการ ผลลัพธ์ และความยั่งยืน
ทำไมต้องเสริมคาง ที่ Dr.CHEN Surgery Hospital International Center?
ใครที่กำลังมองหาคลินิกเสริมคางเพื่อปรับรูปหน้าให้สวยเป๊ะ แต่ยังลังเลอยู่ว่าจะทำที่ไหนดี โรงพยาบาลศัลยกรรม Dr.CHEN Surgery Hospital International Center เราให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัย พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลทุกขั้นตอน รวมถึงเทคนิค DCH Chin Augmentation คือเทคนิคการผ่าตัดเสริมคางซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะทางของเรา พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่ช่วยให้ผู้ป่วยเห็นภาพผลลัพธ์ก่อนการผ่าตัด และผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบและเหมาะสมกับตัวคุณ ให้คุณมั่นใจได้ในผลลัพธ์ที่สวยและปลอดภัย ตอบโจทย์ทุกความต้องการสำหรับคนอยากมีคางสวยละมุน และรับกับกรอบหน้าแบบไร้ที่ติ
เทคนิค DCH Chin Augmentation คืออะไร?
เสริมคางเทคนิค DCH Chin Augmentation คือเทคนิคการผ่าตัดเสริมคางเฉพาะตัวของโรงพยาบาล Dr.CHEN Surgery Hospital ที่เน้นความประณีต ไม่มีรอยแผล ไม่เห็นรอยต่อของซิลิโคน วางซิลิโคนครอบฐานกระดูกอย่างแม่นยำแล้วเย็บล็อกป้องกันการเบี้ยวเอียง ทำให้หลังเสริมคางไม่เป็นก้อน ไม่ห้อยย้อย เรียบเนียนไปกับผิว อีกทั้งขาซิลิโคนยังรับกับกรอบหน้าช่วยทำให้กรอบหน้าชัดเจน การศัลยกรรมคางทุกขั้นตอน ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางจากทีมแพทย์ DCH ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย และยังคงความเนียนเป็นธรรมชาติหลังผ่าตัด
ข้อดีของการเสริมคาง เทคนิค DCH Chin Augmentation
- การผ่าตัดมีความแม่นยำ ได้รูปทรงคางที่เรียวสวย ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการจากทีม DCH
- วัสดุเสริมคางคุณภาพสูง ใช้ซิลิโคนเกรดทางการแพทย์ที่ผ่านการรับรองจาก FDA
- ออกแบบทรงเฉพาะในแต่ละบุคคล โดยการเหลาซิลิโคนเคสต่อเคส
- การผ่าตัดไม่มีรอยแผลเป็น หลังทำไม่ต้องพักฟื้นนาน
- การฟื้นตัวที่รวดเร็ว ด้วยเทคนิคที่ลดการกระทบต่อเนื้อเยื่อ
- ล็อคคางแน่นทุกมุมแบบ 3 มิติ ป้องกันปัญหาซิลิโคนลอย และการเบี้ยวเอียง ทำให้ซิลิโคนไม่เลื่อนไม่ผิดรูป
รีวิวศัลยกรรมเสริมคาง
จุดเด่นของการเสริมคางที่ Dr.CHEN Surgery Hospital
1. ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการจากทีม DCH
การเสริมคางที่นี่ดำเนินการโดยทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูง พร้อมเทคนิคพิเศษที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจได้ในผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และเหมาะกับโครงหน้าของคนไข้แต่ละคน
2. เทคนิคเฉพาะ DCH Chin Augmentation
เทคนิคนี้มีความโดดเด่นตรงที่ ไม่มีรอยแผล ให้เห็นชัดเจนจากภายนอก เนื่องจากการผ่าตัดเปิดแผลจากด้านในช่องปาก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็นหลังผ่าตัด
3. การวางซิลิโคนอย่างแม่นยำ
ใช้การ เย็บล็อกซิลิโคนอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันปัญหาซิลิโคนเบี้ยวเอียงในอนาคต ทำให้หลังเสริมคางได้รูปทรงสวย ไม่เป็นก้อน ไม่ห้อยย้อย และเรียบเนียนไปกับผิว
4. ช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนขึ้น
ซิลิโคนที่ Dr.CHEN Surgery Hospital ใช้มีการออกแบบให้ ขาซิลิโคนรับกับกรอบหน้า ช่วยเน้นกรอบหน้าให้ดูชัดเจนขึ้น ใบหน้าดูสมส่วนและมีมิติ เหมาะสำหรับคนที่อยากปรับคางให้เรียวสวย
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดเสริมคาง
ก่อนการทำศัลยกรรมเสริมคาง ผู้รับบริการควรเข้ารับการปรึกษาจากศัลยแพทย์ผ่าตัด เพื่อประเมินรูปทรง ซิลิโคนให้เหมาะกับรูปหน้า และความต้องการของผู้รับบริการมากที่สุด พร้อมแจ้งข้อมูลทางด้านสุขภาพ เช่น มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง มีประวัติแพ้ยาหรือไม่ เมื่อทราบวันนัดหมายแล้ว จะต้องเตรียมตัวดังนี้
- งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งด รับประทานวิตามิน อาหารเสริม เช่น น้ำมันตับปลา ก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- .ควรทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้ารับการผ่าตัด เช่น ล้างหน้า แปรงฟัน และบ้วนปากให้เรียบร้อย
- รับประทานอาหารให้พออิ่มก่อนเข้าห้องผ่าตัด ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร
การปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัดเสริมคาง
- 1-3 วันแรก หลังจากการผ่าตัดให้ประคบเย็น เพื่อลดอาการบวมช้ำ แล้ววันที่ 4 เปลี่ยนมา ประคบอุ่น
- นอนศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวม อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 เดือน
- งดออกกำลังกายที่ใช้แรงมากๆ ประมาณ 1 เดือน
- รับประทานยา ตามที่แพทย์สั่งให้ครบ
- มารับการตรวจแผล และถอดเฝือกตามที่แพทย์นัด
- แนะนำให้บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดทุกครั้งหลังกินอาหาร ช่วง 7 วันแรก
- มารับการตรวจประเมินแผล และคางตามแพทย์นัด
ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกี่วันคางจะเข้ารูป
การพักฟื้นหลังจากการผ่าตัดเสริมคาง เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7 วัน แต่สามารถไปไหนมาไหนได้ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่กระทบกิจวัตรประจำวัน โดย 7 วัน จะนัดเข้ามาเพื่อเช็คแผล หรือตัดไหม ซึ่งทรงคางจะเข้าที่ใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน หลังการเสริมคางไปแล้ว ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดของแต่ละบุคคลประกอบกัน
เสริมคางอยู่ได้นานแค่ไหน?
การเสริมคางด้วยซิลิโคน เป็นการทำศัลยกรรมที่มีผลลัพธ์คงทนถาวร หากไม่มีปัจจัยที่ทำให้ซิลิโคนเคลื่อนหรือเสียหาย เช่น การกระแทกรุนแรงหรืออุบัติเหตุ โดยรายละเอียดเกี่ยวกับความคงทนของการเสริมคาง
การศัลยกรรมเสริมคางเจ็บไหม
หลายคนที่กำลังสนใจ ศัลยกรรมเสริมคาง คงมีคำถามในใจว่า “เสริมคางเจ็บไหม?” เพราะเรื่องความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่หลายคนกังวลอันดับต้นๆ ซึ่งความเจ็บจากการเสริมคางนั้น ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ครับ เนื่องจากการแพทย์สมัยใหม่มีเทคนิค และยาชาที่ช่วยลดความเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งการฟื้นตัวก็รวดเร็วหากดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม
- ระหว่างผ่าตัดไม่รู้สึกเจ็บ เพราะยาชาหรือยาสลบช่วยได้ในระหว่างการผ่าตัด เสริมคาง คุณจะไม่รู้สึกเจ็บเลยครับ เพราะแพทย์จะให้ ยาชาเฉพาะที่ หรือในบางกรณีอาจใช้ ยาสลบ (ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัดและดุลยพินิจของแพทย์) ซึ่งจะทำให้คุณไม่รู้สึกตัว และไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ ตลอดระยะเวลาการผ่าตัด
- หลังผ่าตัดอาการเจ็บปวดที่จัดการได้ หลังจากยาชาหมดฤทธิ์ คุณอาจรู้สึก ไม่สบายหรือปวดตึงบริเวณคาง ได้เล็กน้อย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการผ่าตัดทุกประเภท อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดหลังการเสริมคางสามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยยาบรรเทาปวดที่แพทย์จัดให้
- ระยะเวลาของอาการเจ็บปวดและการฟื้นตัว ช่วง 1-3 วันแรก อาจรู้สึกปวดตึงหรือไม่สบายบริเวณคาง แต่จะดีขึ้นเมื่อทานยาและประคบเย็น ช่วงสัปดาห์แรก: อาการปวดจะบรรเทาลงเรื่อยๆ และคางจะเริ่มเข้าที่ ช่วง 1 เดือนหลังผ่าตัด อาการบวมและปวดจะหายไปเกือบหมด และเห็นทรงคางที่ชัดเจนมากขึ้น การดูแลตัวเองหลังการเสริมคาง เช่น หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง, งดอาหารแข็งที่ต้องเคี้ยวเยอะ, และ ติดตามการรักษาตามนัดหมายแพทย์ จะช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างรวดเร็วและลดความเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ