ศัลยกรรมดึงหน้า DCH Face Young

ศัลยกรรมดึงหน้า Face Young เทคนิคพิเศษเฉพาะ Dr.CHEN Surgery Hospital International Center เริ่มต้นจากคุณหมอเชนได้คิดเทคนิคเฉพาะทางนี้ เป็นการผ่าตัดดึงหน้าที่ทำการยกกระชับผิวหน้า และเนื้อเยื่อทั้งหมดของใบหน้าและลำคอ ยกตั้งแต่ชั้น SMAS เพื่อปรับและแก้ไขสภาพของริ้วรอยเหี่ยวย่น ความหย่อนคล้อย และความไม่เรียบเนียนของผิวหนัง กระบวนการนี้มักจะรวมถึงการตัดเนื้อเยื่อส่วนเกิน การยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า และการจัดเรียงผิวหนังใหม่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูอ่อนวัยและสดใสมากขึ้น  DCH FACE-YOUNG จะครอบคลุมหลายส่วนของใบหน้า รวมถึงหน้าผาก, บริเวณรอบดวงตา, แก้ม, และคอ  คุณหมอเชน ให้ความสำคัญเรื่องรอยผ่าตัด ไว้เพียงจุดเล็กๆ เย็บแผลสวย บวมช้ำน้อย ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ลูกค้าสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ  เน้นถึงผลลัพธ์ใบหน้าสวยดูธรรมชาติ จะทำให้ใบหน้าดูกลับมามีอายุน้อย หน้าเด็กลดลงเป็น 10 ปี 

ศัลยกรรมดึงหน้า FACE YOUNG คืออะไร? 

เป็นการผ่าตัดดึงหน้ายกกระชับกล้ามเนื้อผิวที่มีความหย่อนคล้อย ริ้วรอยต่างๆ เป็นการผ่าตัดดึงหน้าทั้งหน้า โดยไล่ไปตั้งแต่บริเวณใบหน้าส่วนบน ใบหน้าส่วนกลางถึงส่วนล่าง และไปจนถึงบริเวณลำคอ ปรับความตึงในการเย็บเก็บกล้ามเนื้อ ทำให้ใบหน้ากลับมาตึงกระชับ เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติอีกครั้ง โดยพิจารณาการรักษาตามความเหมาะสมของคนไข้ ไม่น้อยเกินไปหรือมากเกินไป

เทคนิคดึงหน้า Face Young

ดึงหน้า FACE YOUNG ส่วนไหนได้บ้าง?

Face Young ดึงส่วนไหนได้บ้าง

ใบหน้าแบบไหน ที่เหมาะกับผ่าตัดดึงหน้า

แบบไหนที่ควรดึงหน้า

รู้ก่อนศัลย์เทคนิค และวิธีการที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า

การผ่าตัดดึงหน้าเป็นกระบวนการที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า โดยมีหลายเทคนิคที่สามารถเลือกใช้ได้ ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวหนังและความต้องการของผู้เข้ารับการผ่าตัด เทคนิคที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันทันสมัย ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีแตกต่างกันไป การดึงหน้าแบบ SMAS ช่วยยกกระชับทั้งผิวและชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ การผ่าตัดดึงหน้านี้ควรทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางดึงหน้า และต้องมีการเตรียมตัวอย่างดีเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัย ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน และฟื้นตัวเร็วมากขึ้น  

ใครสนใจอยากดีงหน้าดึงแก้มห้อย กลับมาหน้าเด็กต้องทำความรู้จักกับวิธี และเทคนิคผ่าตัดดึงหน้า แนวการดึงต้องเลียนแบบโครงสร้างของใบหน้าตามธรรมชาติเดิมของคนไข้ หากเราเลือกเทคนิคการผ่าตัดดึงหน้าที่ถูกต้อง เหมาะสมกับตัวของคนไข้นั้นเอง

เทคนิคการผ่าตัดดึงหน้า FACE YOUNG

เทคนิคการผ่าตัดดึงใบหน้าส่วนกลางและล่าง จะมี 2 เทคนิค ด้วยกัน

การผ่าตัดดึงหน้าแบบแผลเล็ก

เทคนิคที่ 1 การผ่าตัดแบบแผลเล็ก ( Mini facelift )

Mini Facelift เป็นกระบวนการที่ศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดผ่านแผลขนาดเล็กที่มักเป็นการเปิดแผลขนาดเล็กทั้ง 2 ข้าง ตรงด้านบนช่วงขมับลงมาถึงขอบหน้าหูส่วนบน ผ่าตัดดึงหน้าเลาะชั้นใต้ผิวหนังลงไปถึงประมาณใบหน้าส่วนล่าง ในชั้นใต้ผิว SMAS   และทำการยกกระชับผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิว เย็บในตำแหน่งใหม่ให้ผิวกระชับ  วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีความหย่อนคล้อยของร่องแก้มเพียงเล็กน้อย ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวหน้ากระชับขึ้น แต่ยังช่วยลดรอยเหี่ยวย่นและทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนขึ้น

การผ่าตัดแบบดึงทั้งหน้า

เทคนิคที่ 2 การผ่าตัดแบบดึงทั้งหน้า (Full facelift)

Full facelift การผ่าตัดดึงทั้งหน้าเป็นการทำศัลยกรรมที่ครอบคลุมทั้งผิวหนัง และเนื้อเยื่อใต้ผิว โดยศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดจะเปิดแผลทั้ง 2 ข้างที่หน้าหูและติ่งหู  ขึ้นไปถึงแนวขมับ และลงมาถึงลำคอ ผ่าตัดเลาะเนื้อเยื่อดึงผิวหนัง Skin และเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังไปจนถึงชั้น SMAS ดึงให้ตึงจากนั้นถึงตัดผิวหนังส่วนเกินออก เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยทั้งใบหน้าเพื่อทำการยกกระชับผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูเรียบเนียนและกระชับขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติและสามารถคงอยู่ได้นานหลายปี

การผ่าตัดดึงคอ

การผ่าตัดดึงคอ

การผ่าตัดดึงคอเป็นกระบวนการที่ศัลยแพทย์ทำการยกกระชับผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวในบริเวณลำคอ โดยมีการผ่าตัดแผลเล็กบริเวณหลังหูและใต้คาง เพื่อทำการดึงกระชับผิวที่หย่อนคล้อย การผ่าตัดนี้ยังสามารถแก้ไขปัญหาคางสองชั้น (Double Chin) และลดไขมันส่วนเกินบริเวณคอได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมอยู่ใต้คาง ทำให้คางหย่อนยาน เกิดเป็นเหนียงหลายชั้น มักจะทำร่วมกับการทำแบบ Full facelift ไปพร้อมกัน แล้วดึงให้ตึง ตัดส่วนเกินออก แล้วเย็บชั้น SMAS ให้ตึงตามแนวรูป เพื่อผลลัพธ์ในการผ่าตัดชัดเจนและดียิ่งขึ้น พร้อมกับผ่าตัดยกกระชับคอซ่อนแผลหลังหูทั้งสองข้าง

ทำไมการดึงหน้าถึงต้องดึงลึกถึงชั้น SMAS? 

การดึงหน้า (Facelift) เป็นการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าได้อย่างเห็นผล แต่รู้หรือไม่ว่าการดึงหน้าให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้นต้องดึงลึกถึงชั้น SMAS หรือ Superficial Musculo Aponeurotic System แล้ว SMAS คืออะไร? และทำไมถึงสำคัญกับการดึงหน้า?

ชั้นผิวหนัง smas

SMAS คืออะไร?

SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) คือชั้นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่อยู่ระหว่างผิวหนังและชั้นไขมันของใบหน้า มีหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างกล้ามเนื้อใบหน้าและผิวหนัง เมื่ออายุมากขึ้น ชั้น SMAS นี้จะเริ่มหย่อนคล้อยตามธรรมชาติ ทำให้ผิวหน้าหย่อนตามไปด้วย เกิดริ้วรอย ร่องลึก และการหย่อนคล้อยต่างๆ บนใบหน้า

ชั้นผิวหนัง SMAS

ทำไมต้องดึงลึกถึงชั้น SMAS?

การดึงหน้าโดยดึงเพียงชั้นผิวหนังอาจให้ผลลัพธ์เพียงชั่วคราวและไม่ยั่งยืน แต่การดึงถึงชั้น SMAS จะช่วยยกกระชับใบหน้าในระดับที่ลึกกว่า และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า เนื่องจากชั้น SMAS เป็นชั้นที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า การดึงและจัดเรียงใหม่จะช่วยคืนความกระชับและความยืดหยุ่นของใบหน้าได้อย่างแท้จริง ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสกว่าเดิม

ประโยชน์ของการดึงถึงชั้น SMAS

  • ผลลัพธ์ที่ยาวนาน: การดึงชั้น SMAS ช่วยให้ผลลัพธ์ของการดึงหน้ายั่งยืนกว่าการดึงเพียงชั้นผิวหนัง ทำให้ใบหน้าคงความอ่อนเยาว์ได้นานหลายปี
  • ดูเป็นธรรมชาติ: ด้วยการจัดเรียงชั้นกล้ามเนื้อใหม่ การดึงหน้าจะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดผิวที่ตึงเกินไป หรือดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • การฟื้นฟูที่ครบวงจร: การดึงถึงชั้น SMAS ช่วยฟื้นฟูใบหน้าในทุกมิติ ทั้งความกระชับของผิวหนัง และการยกกระชับของกล้ามเนื้อ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยจากภายในสู่ภายนอก
Face Young ดึงหน้าย้อนวัย

ข้อดีของการดึงหน้า DCH FACE YOUNG 

  • การดึงหน้ากด้วยเทคนิค DCH FACE YOUNG ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ 
  • การดึงหน้าช่วยลดปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยในบริเวณใบหน้า ทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์และลดริ้วรอยบริเวณแก้ม ริ้วรอยตา และริ้วรอยบนหน้าแบบเฉพาะจุดได้ด้วย
  • ช่วยปรับรูปหน้าให้สวยงามและยังคงดูธรรมชาติ โดยปรับรูปกรามและโครงสร้างใบหน้าให้ดูดีและสมส่วนมากขึ้น
  • ช่วยแก้ปัญหาผิวที่อยู่ได้นาน ต่างจากการรักษาความหย่อนคล้อยด้วยวิธีอื่นๆ ที่อาจจะต้องมาทำบ่อยๆ 
  • ทำให้คนรู้สึกมั่นใจและมีความรู้สึกดีต่อตัวเอง ซึ่งอาจส่งผลในด้านจิตใจและการใช้ชีวิตประจำวัน
เปรียบเทียบดึงหน้า

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดดึงหน้าแผลเล็ก

  • อาจมีอาการบวมหลังการผ่าตัด แพทย์จะให้ทานยาระงับอาการ ประคบเย็นที่ใบหน้า และนอนยกศีรษะสูงกว่าลำตัวในช่วงประมาณ 3 วันแรก 
  • ควรนอนยกศีรษะสูง การนอนยกศีรษะสูงช่วยลดอาการบวมและช้ำหลังการผ่าตัด
  • แผลจากการผ่าตัดที่ศีรษะ ต้องรอเล็กน้อยก่อนเริ่มสระผม 
  • ควรควบคุมเรื่องน้ำหนักตัวให้ดี เพราะส่งผลต่อผิวหนังบริเวณใบหน้า 
  • ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเต็มที่ ใส่ผ้าSupport รัดกรอบหน้าตลอด  
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ การดูแลแผลและการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเพิ่มความเร็วในการฟื้นตัว

ข้อควรระวังหลังทำผ่าตัดดึงหน้า

พยายามอย่าแกะหรือจับบริเวณแผลผ่าตัด และไม่ให้แผลสัมผัสสิ่งสกปรก เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ หากมีอาการบวมแดงอักเสบผิดปกติ หรือมีเลือดไหลออกมา ให้รีบเข้ามาพบศัลยแพทย์เพื่อตรวจดูอาการ ห้ามซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจเกิดอาการที่รุนแรงขึ้นยิ่งกว่าเดิม

ผ่าตัดดึงหน้าต้องพักฟื้นนานไหม?

หลังจากการดึงหน้าคุณอาจต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวและลดอาการบวมช้ำ โดยในช่วงสัปดาห์แรก อาจมีอาการบวมและช้ำที่เห็นได้ชัด ระหว่างนี้ควรใช้ผ้า Support รัดกรอบหน้า แนะนำว่าให้ทำต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือนหลังผ่าตัด ซึ่งจะค่อยๆ ลดลงในเวลาไม่กี่วัน ในช่วงนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ คุณจะสามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติได้ แต่เลี่ยงกิจกรรมหนักๆที่อาจจะทำให้หน้ามีการกระทบกระเทือนได้ แต่หลังผ่าตัดดึงหน้าภายใน 2-3 เดือน รวมถึงอาการต่างๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ และจะหายสนิทภายใน 6 เดือน 

ดึงหน้าสามารถอยู่ได้นานกี่ปี?

หลายคนอาจจะสงสัย ว่าการดึงหน้าอยู่ได้นานไหม?   ผลลัพธ์จากการดึงหน้าสามารถคงอยู่ได้นาน 7-10 ปี ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ สภาพผิว การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด และการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ควรทราบว่าการดึงหน้าไม่สามารถหยุดยั้งกระบวนการชราได้ เพียงแต่ช่วยชะลอและฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้กลับมาอีกครั้ง ลักษณะของผิวหน้าเราจะดูอ่อนวัยมากขึ้น หลังจากนั้นผิวหน้าเราก็จะค่อยๆ หย่อนคล้อยไปตามวัยปกติ  แต่หลังดึงหน้าไปประมาณ 7 – 10 ปี สามารถปรึกษาเพื่อที่จะดึงหน้าได้อีกครั้ง

วิธีการรักษาดึงหน้าอยู่ให้ยาวนาน

  • ดูแลผิวหน้าเป็นประจำการใช้ครีมบำรุงที่เหมาะสมกับสภาพผิว และการปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักและผลไม้ ช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิว
  • การทำหัตถการกระตุ้นคอลลาเจนสม่ำเสมอ เช่น มีการนวดเพื่อกระชับ นวดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด จะช่วยยืดระยะเวลาผลลัพธ์ของการดึงหน้าได้นานมากขึ้น
  • เลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ: เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และความเครียด

เปรียบเทียบ ดึงหน้า DCH vs ดึงหน้าแบบเก่า

เปรียบเทียบเทคนิคการดึงหน้า

ทำไม? ต้องศัยลกรรมดึงหน้า ที่ Dr.CHEN Surgery Hospital

ศัลยกรรมดึงหน้า ลดอายุ

ลูกค้าทุกท่านตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เพราะที่ Dr.CHEN Surgery Hospital….. 

ทำให้คืนความอ่อนเยาว์ ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง ดูสดใสขึ้นและมีความตึงกระชับ เหมือนได้ย้อนวัย การประเมินใบหน้า และให้คำปรึกษาโดยทีมแพทย์ Dr.CHEN ด้วยโปรแกรมสแกนใบหน้า 3D SCAN เห็นผลก่อนทำ!!ความแม่นยำกว่า 90% ซึ่งเป็นโปรแกรมทางการแพทย์นำเข้าจากสวิสเซอร์แลนด์ 

ทำให้เห็นผลลัพธ์ก่อนผ่าตัดจริง และออกแบบได้ตามความต้องการที่คนไข้ต้องการ คนไข้ทุกท่านประทับใจ อุ่นใจ คลายกังวล มั่นใจ มาตรฐานการผ่าตัดระดับสากล ความปลอดภัย ผลลัพธ์ เห็นผลชัดเจนที่ตรงใจ 

มาตรฐานการผ่าตัดปลอดภัย

รีวิวจากผู้เข้ารับบริการที่ Dr. CHEN Surgery Hospital International Center

ผู้เข้ารับบริการที่ Dr.CHEN Surgery Hospital International Center มีความพึงพอใจในผลลัพธ์ของการผ่าตัดดึงหน้าอย่างมาก โดยมีความเห็นเป็นบวกทั้งในเรื่องของการดูแลและความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์

การเลือกทำศัลยกรรมดึงหน้าที่ Dr.CHEN Surgery Hospital International Center นอกจากจะได้รับการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้ว ยังได้รับการดูแลจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง ทำให้มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นที่พึงพอใจ