คงปฏิเสธไม่ได้ว่าริ้วรอยแห่งวัย และความหย่อนคล้อยของผิว เป็นสิ่งที่หลายคนกังวลใจ “การดึงหน้า” จึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่ช่วยให้แลดูเด็ก เสริมความมั่นใจ แต่ก่อนตัดสินใจขึ้นเขียงผ่าตัด มีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ บทความนี้ DCH Dr. Chen Surgery Hospital Inernational Center ได้รวบรวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการดึงหน้า ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมตัว การเลือกศัลยแพทย์ ความเสี่ยง ผลข้างเคียง ไปจนถึงการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด เพื่อให้ทุกคนพร้อมสำหรับการตัดสินใจครั้งสำคัญ และก้าวสู่วัยที่ดูดีอย่างมั่นใจค่ะ
1. ศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) คืออะไร
ศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) หรือ การศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า หรือดึงหน้า โดยการผ่าตัดลงใบที่ชั้นผิวที่เป็นต้นตอของปัญหาผิวหย่อนคล้อย ดึงและตัดแต่งให้เกิดความกระชับและความเรียบเนียนของชั้นผิวมากขึ้น
2. หลักการทำงานของการดึงหน้า
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังจะสูญเสียความยืดหยุ่นและหย่อนคล้อยลงตามธรรมชาติ รวมถึงไขมันและกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าก็จะลดลงและหย่อนยาน การดึงหน้าจึงเป็นการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยศัลยแพทย์จะทำการ
- ตัดผิวหนังส่วนเกิน : กำจัดผิวหนังที่หย่อนคล้อยบริเวณแก้ม คาง และลำคอ
- ยกกระชับกล้ามเนื้อ : ดึงกล้ามเนื้อที่หย่อนยานให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
- ปรับไขมัน : จัดเรียงไขมันบริเวณใบหน้าให้ได้สัดส่วนที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ
3. การดึงหน้าเหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและเห็นผลชัดเจน
- ผู้ที่ต้องการปรับปรุงรูปหน้าให้แลดุเด็กและกระชับขึ้น
- ผู้ที่เคยมีน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด
4. DCH Faceyoung เทคนิคเฉพาะที่ DCH
ศัลยกรรมดึงหน้า Face Young เทคนิคพิเศษเฉพาะ Dr.CHEN Surgery Hospital International Center เริ่มต้นจากคุณหมอเชนได้คิดเทคนิคเฉพาะทางนี้ เป็นการผ่าตัดดึงหน้าที่ทำการยกกระชับผิวหน้า และเนื้อเยื่อทั้งหมดของใบหน้าและลำคอ ยกตั้งแต่ชั้น SMAS เพื่อปรับและแก้ไขสภาพของริ้วรอยเหี่ยวย่น ความหย่อนคล้อย และความไม่เรียบเนียนของผิวหนัง กระบวนการนี้มักจะรวมถึงการตัดเนื้อเยื่อส่วนเกิน การยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า และการจัดเรียงผิวหนังใหม่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูอ่อนวัยและสดใสมากขึ้น DCH FACE-YOUNG จะครอบคลุมหลายส่วนของใบหน้า รวมถึงหน้าผาก, บริเวณรอบดวงตา, แก้ม, และคอ คุณหมอเชน ให้ความสำคัญเรื่องรอยผ่าตัด ไว้เพียงจุดเล็กๆ เย็บแผลสวย บวมช้ำน้อย ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ลูกค้าสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ เน้นถึงผลลัพธ์ใบหน้าสวยดูธรรมชาติ จะทำให้ใบหน้าดูกลับมามีอายุน้อย หน้าเด็กลดลง
จุดเด่นของเทคนิค DCH Faceyoung
- ผลลัพธ์ธรรมชาติ : เทคนิคนี้เน้นผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็งหรือผิดรูป
- ผ่าตัดลึกถึงชั้น SMAS : เป็นการผ่าตัดที่ลงลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่สำคัญในการพยุงโครงสร้างของใบหน้า ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน
- แผลเล็ก : ศัลยแพทย์จะให้ความสำคัญกับรอยแผลผ่าตัด โดยจะทำการผ่าตัดในจุดที่เล็กและซ่อนรอยแผลได้ดี
- พักฟื้นน้อย : ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถพักฟื้นได้ในระยะเวลาอันสั้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ยกกระชับครอบคลุม : เทคนิคนี้ทำการยกกระชับผิวหน้าและเนื้อเยื่อทั้งหมดของใบหน้าและลำคอ รวมถึงหน้าผาก บริเวณรอบดวงตา แก้ม และคอ
DCH Faceyoung เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและเห็นผลชัดเจน
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้แลดูเด็กและกระชับขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่น และความไม่เรียบเนียนของผิวหนัง
ข้อดีของการดึงหน้า DCH FACE YOUNG
- การดึงหน้ากด้วยเทคนิค DCH FACE YOUNG ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- ช่วยปรับรูปหน้าให้สวยงามและยังคงดูธรรมชาติ โดยปรับรูปกรามและโครงสร้างใบหน้าให้ดูดีและสมส่วนมากขึ้น
- ช่วยแก้ปัญหาผิวที่อยู่ได้นาน ต่างจากการรักษาความหย่อนคล้อยด้วยวิธีอื่นๆ ที่อาจจะต้องมาทำบ่อยๆ
- ทำให้คนรู้สึกมั่นใจและมีความรู้สึกดีต่อตัวเอง ซึ่งอาจส่งผลในด้านจิตใจและการใช้ชีวิตประจำวัน
- การดึงหน้าช่วยลดปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยในบริเวณใบหน้า ทำให้หน้าแลดูเด็กและลดริ้วรอยบริเวณแก้ม ริ้วรอยตา และริ้วรอยบนหน้าแบบเฉพาะจุดได้ด้วย
5. การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดดึงหน้า
การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้า เป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น ได้ผลลัพธ์ที่ดี และลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว การดูแลตัวเองก่อนดึงหน้าสามารถแบ่งออกได้เป็นข้อปฏิบัติต่างๆ ดังนี้
- งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกออล์
- สระผมก่อนผ่าตัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- รักษาสุขภาพให้แข็งแรง และควรมีผู้ติดตามหลังทำเสร็จ
- งดยาต้านการอักเสบ เช่น กลุ่มยาแอสไพริน วิตามินอาหารเสริม
- หากมีโรคประจำตัวหรือประวัติการแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์โดยละเอียด
ผู้ที่เหมาะกับการดึงหน้า
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน และอยู่ได้นาน
- ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง
- ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา ร่องน้ำหมาก
- ผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด เช่น แก้มตก ร่องแก้มลึก คางสองชั้น
- ผู้ที่ต้องการปรับปรุงรูปหน้าให้ดูคมชัดขึ้น เช่น ต้องการยกกระชับกราม ลดเหนียง
6. การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดดึงหน้า
การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดดึงหน้าเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แผลหายเร็วและผลลัพธ์ของการผ่าตัดเป็นที่น่าพอใจ ด้านล่างนี้เป็นคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดดึงหน้า
รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- นอนยกศีรษะสูงในช่วง 2-3 วันแรกหลังผ่าตัด เพื่อลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง และใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง
- ไปพบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อติดตามผลการรักษาและรับคำแนะนำเพิ่มเติม
- ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด ควรประคบเย็นบริเวณใบหน้าเพื่อลดอาการบวมและช้ำ
- หลีกเลี่ยงการก้ม การยกของหนัก และการออกกำลังกายอย่างหนักในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก
- หลังการผ่าตัด ควรพักผ่อนอย่างเพียงพอและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก
ดึงหน้าที่ไหน ราคาเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายในการดึงหน้านั้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ต้องการจะยกกระชับ และตามการประเมินจากทางแพทย์ โดยราคาการดึงหน้าเฉพาะจุดที่ DCH เริ่มต้นที่ 120,000 บาท ซึ่งราคานี้ถือว่าคุ้มค่า เพราะดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ด้วยเทคนิค “DCH FACE YOUNG” เทคนิคดึงหน้าแบบเฉพาะของเรา ที่ช่วยให้คุณกลับมาตึงกระชับ ดูสดใส ดูเด็กลง 10 ปี
- เป็นเทคนิคพิเศษ ดึงยกไปถึงชั้น SMAS ทำให้มุมปากยิ้มขึ้น
- ผ่าตัดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางด้านศัลยกรรม
- แผลเล็ก พักฟื้นไม่นาน ด้วยเทคนิคเฉพาะ ยกกระชับระดับชั้น SMAS
- ห้องผ่าตัดมาตรฐานโรงพยาบาลอุปกรณ์ครบครันและทันสมัยทุกเคส
การดึงหน้าเหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ถาวร ไม่ต้องไปเพิ่มเติมการยกกระชับอื่นๆ อยู่ตลอด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดึงหน้า
Q : ดึงหน้าเจ็บไหม?
A : การผ่าตัดดึงหน้าอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยหลังการผ่าตัด แต่แพทย์จะให้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ
Q : ดึงหน้าอยู่ได้นานแค่ไหน?
A : ผลลัพธ์ของการดึงหน้าไม่ได้อยู่ถาวร และอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา โดยทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 5-10 ปี
Q : ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?
A : โดยทั่วไปต้องพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์
บทสรุป
การดึงหน้า ไม่ใช่แค่การศัลยกรรม แต่คือการลงทุนเพื่อ “ย้อนวัย” ให้กับตัวเอง แต่การลงทุนทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยง ดังนั้น การศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน เลือกศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี คือกุญแจสำคัญที่จะนำพาคุณไปสู่ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า และทำให้แลดูเด็กที่ยั่งยืนนั่นเองค่ะ
Author: DCH Hospital
Dr.Chen Writer
