ปัญหาคิ้วตก พบเจอได้ในทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และมีแนวโน้มมากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น หลายคนหาทางออกด้วยการฉีดโบท็อกซ์เพื่อยกคิ้ว แต่ผลลัพธ์คงอยู่ได้ไม่นาน หรือในบางคนก็ไม่เห็นผลเท่าที่ควร จึงหันมาพิจารณาวิธีการ ศัลยกรรมยกคิ้ว ซึ่งสามารถให้ผลลัพธ์ถาวรและเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน
แต่การ ยกคิ้ว มีหลายเทคนิค แล้วแบบไหนปลอดภัย เหมาะกับคุณที่สุด?
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับเทคนิคการยกคิ้วทุกแบบ พร้อมเจาะลึกข้อดี ข้อควรระวัง และแนวทางเลือกที่เหมาะกับแต่ละบุคคล เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้มั่นใจยิ่งขึ้น
ศัลยกรรมยกคิ้ว

ศัลยกรรมยกคิ้ว (Brow Lift) คือหัตถการทางการแพทย์ที่มีเป้าหมายเพื่อปรับระดับคิ้วให้สูงขึ้น คืนความสดใสให้ดวงตา และลดปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณหน้าผากและหนังตาบน ซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากอายุที่เพิ่มขึ้น หรือแม้แต่กรรมพันธุ์ที่ทำให้แนวคิ้วต่ำกว่าปกติ การยกคิ้วสามารถทำได้หลายเทคนิค เช่น การผ่าตัดแบบเปิดแผลเหนือคิ้ว, การยกคิ้วผ่านแนวไรผม, และการยกคิ้ว EBL (Endoscopic Brow Lift) ซึ่งเป็นเทคนิคที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะมีแผลเล็ก เจ็บน้อย และให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
เข้าใจปัญหาคิ้วตก – จุดเริ่มต้นของการศัลยกรรมยกคิ้ว
คิ้วตก คือ ภาวะที่แนวคิ้วเคลื่อนลงต่ำจากตำแหน่งที่ควรอยู่ โดยสาเหตุหลักมีดังนี้
- โครงสร้างใบหน้าที่ไม่สมดุล
- อุบัติเหตุ หรือการผ่าตัดก่อนหน้า
- อายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- พันธุกรรม พบว่าบางคนมีคิ้วต่ำโดยกำเนิด หรือมีแนวโน้มคิ้วตกตั้งแต่อายุยังน้อย
ผลที่ตามมาคือ ใบหน้าดูเศร้า ดูเหนื่อย หรือมีอายุ และในบางรายอาจมีหนังตาตกบังการมองเห็น
ทำไมต้องทำศัลยกรรมยกคิ้ว?
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังและเนื้อเยื่อบริเวณคิ้วจะสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้คิ้วหย่อนคล้อยลงตามกาลเวลา นอกจากนี้ แรงโน้มถ่วง การเปลี่ยนแปลงของกระดูก และปัจจัยอื่นๆ ก็มีส่วนทำให้คิ้วหย่อนคล้อยได้เช่นกัน คิ้วที่หย่อนคล้อยทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ไม่สดใส และอาจบดบังการมองเห็น ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในตนเอง
ศัลยกรรมยกคิ้วช่วยอะไร?
- ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส และมีมิติมากขึ้น
- ยกกระชับคิ้วที่หย่อนคล้อยให้กลับมาได้รูปสวยงาม
- แก้ไขปัญหาหนังตาตก ทำให้ดวงตาดูโตขึ้น สดใสขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ปรับปรุงรูปทรงคิ้วให้เข้ากับใบหน้า
ศัลยกรรมยกคิ้วมีกี่แบบ? เจาะลึกทุกเทคนิคที่ใช้ในปัจจุบัน
การศัลยกรรมยกคิ้วมีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ไม่ต้องผ่าตัด ไปจนถึงผ่าตัดแบบถาวร ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดี-ข้อจำกัดต่างกัน เราจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ

1. ยกคิ้วเทคนิค Direct Brow Lift
Direct Brow Lift คือการเปิดแผลตรงเหนือคิ้ว แล้วตัดหนังส่วนเกินออกเพื่อยกแนวคิ้วขึ้นโดยตรง วิธีนี้แพทย์จะทำการเย็บซ่อนแผลแนบไปกับขอบคิ้วให้เนียนที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาหย่อนเยอะเป็นการแก้ไขเฉพาะจุดตรงบริเวณคิ้วโดยตรง
ข้อควรพิจารณา
- อาจมีรอยแผลบริเวณคิ้ว ซึ่งอาจเห็นชัดในบางราย
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีคิ้วบาง เพราะจะปกปิดรอยแผลได้ยาก
เหมาะกับ : ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่กังวลเรื่องรอยแผลบริเวณใบหน้า
2. ยกคิ้วเทคนิค Pretrichial Brow Lift
Pretrichial Brow Lift คือการเปิดแผลยาวบริเวณไรผมด้านหน้าหน้าผาก (บริเวณเส้นผมด้านบนหน้าผาก) แล้วทำการดึงหนังศีรษะขึ้น เพื่อลดความหย่อนคล้อยทั้งแนวคิ้วและหน้าผาก ยกได้ทั้งแนวคิ้วและลดรอยย่นบนหน้าผาก ซ่อนแผลไว้ที่ไรผม ทำให้ไม่เห็นรอยชัด
ข้อควรพิจารณา
- ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว
- อาจรู้สึกตึงหน้าผากในช่วงแรก
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีหน้าผากแคบหรือผมบาง
เหมาะกับ : ผู้ที่มีทั้งคิ้วตกและริ้วรอยหน้าผากลึก ร่วมกับหนังตาหย่อน


3. ยกคิ้วเทคนิค Sub-Brow Lift
Sub-Brow Lift หรือบางครั้งเรียกว่า Subbrow Excision คือการผ่าตัดยกคิ้วโดยการเปิดแผลเล็ก ๆ ใต้แนวคิ้ว แล้วตัดผิวหนังและเนื้อเยื่อส่วนเกินออก จากนั้นดึงผิวหนังให้ตึงขึ้นเล็กน้อย เทคนิคนี้ช่วยลดความหย่อนคล้อยของหนังตาบนที่เกิดจากอายุ และช่วยยกหางคิ้วขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัดบริเวณดวงตาโดยตรง
ข้อควรพิจารณา
- แผลอาจเห็นได้ในบางคนที่มีคิ้วบางหรือไม่มีขนคิ้วปกคลุม
- ยกได้เฉพาะบริเวณหนังตาและหางคิ้ว ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกทั้งแนวหน้าผาก
เหมาะกับ : ผู้ที่มีปัญหาหนังตาหย่อนในระดับเล็กถึงปานกลาง
4. การผ่าตัดยกคิ้วผ่านกล้อง (Endoscopic Brow Lift หรือ EBL)
การยกคิ้ว EBL (Endoscopic Brow Lift) คือการผ่าตัดโดยใช้กล้องส่องขนาดเล็กช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นใต้ผิวหนังได้ชัดเจนขึ้น และใช้เครื่องมือชื่อว่า Endotine สำหรับตรึงเนื้อเยื่อให้คิ้วยกขึ้นในตำแหน่งใหม่ วิธีนี้ได้รับความนิยมมากเพราะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและมีแผลเล็กที่สุด
ข้อดีของยกคิ้ว EBL
- เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว
ไม่มีรอยแผลเป็นที่มองเห็นได้ - แผลเล็กมาก (1-2 ซม.) อยู่ในแนวไรผม
โครงสร้างใบหน้าไม่เปลี่ยนผิดธรรมชาติ - Endotine จะสลายตัวเองในร่างกายภายใน 6-12 เดือน แต่ผลลัพธ์คิ้วยังคงอยู่ยาวนาน
ข้อควรพิจารณา - ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการส่องกล้อง
เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบธรรมชาติ แผลน้อย ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน โดยเฉพาะในวัย 30–50 ปี

DCH EBL Endoscopic 4k
- แผลเล็ก : แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กมาก ซ่อนอยู่ในไรผม ทำให้มองเห็นได้ยาก
- เจ็บน้อย : การผ่าตัดด้วยเทคนิคส่องกล้อง ช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ ทำให้เจ็บน้อยหลังผ่าตัด
- ฟื้นตัวเร็ว : ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติภายในไม่กี่วัน
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ : คิ้วที่ได้รูปใหม่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งกระด้าง เข้ากับใบหน้า
- ปลอดภัย : เป็นการผ่าตัดที่ปลอดภัย มีภาวะแทรกซ้อนน้อย
- แม่นยำ : กล้อง Endoscope ความละเอียดสูงระดับ 4K ช่วยให้ศัลยแพทย์มองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน เพิ่มความแม่นยำในการผ่าตัด
เคล็ดลับก่อนตัดสินใจยกคิ้ว – ทำอย่างไรให้ปลอดภัยและคุ้มค่า
1.วิเคราะห์โครงหน้าอย่างละเอียด
ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เช่น 3D Scan หรือ CT Scan เพื่อออกแบบแนวคิ้วที่เหมาะกับใบหน้า ไม่ควรใช้การตัดสินใจด้วยตาเปล่าเท่านั้น
2.เลือกแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมใบหน้า
เพราะเทคนิคยกคิ้วต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว ทั้งการพิจารณาสัดส่วน การจัดเรียงชั้นกล้ามเนื้อ และการวางแนวการยก
3.ตรวจสอบมาตรฐานโรงพยาบาลหรือคลินิก
ต้องเป็นสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตประกอบการศัลยกรรมอย่างถูกต้อง มีห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน และทีมวิสัญญีแพทย์รองรับหากจำเป็น

ทำศัลยกรรมยกคิ้วที่ไหนดี
ที่ DCH Dr.Chen Surgery Hospital International Center ให้คำปรึกษาได้อย่างตรงจุด ประเมินใบหน้าด้วยโปรแกรมสแกนใบหน้า 3D SCAN เห็นผลก่อนทำ!! ความแม่นยำกว่า 90% ซึ่งเป็นโปรแกรมทางการแพทย์นำเข้าจากสวิสเซอร์แลนด์ และดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง ร่วมออกแบบ แก้ไข ตอบโจทย์ตามแบบที่คนไข้ต้องการ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมยกคิ้ว
เทคนิคไหนปลอดภัยและเป็นที่นิยมที่สุดในตอนนี้?
คำตอบ : เทคนิค ยกคิ้ว EBL (Endotine Brow Lift แบบส่องกล้อง) เป็นที่นิยมสูงสุด เพราะ
✅ ปลอดภัย
✅ ฟื้นตัวไว
✅ แผลเล็กมากซ่อนในไรผม
✅ ผลลัพธ์อยู่ได้นานและดูเป็นธรรมชาติ
✅ ไม่มีแผลเปิดยาวเหมือนการผ่าตัดแบบดั้งเดิม
ยกคิ้วสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้หรือไม่?
คำตอบ : สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ เช่น
- ดึงหน้า (Facelift)
- ฉีดไขมันเติมเต็ม (Fat Grafting)
- ทำตาสองชั้น
- ดึงขมับหรือ Mid Face Lift
*ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนให้เหมาะกับแต่ละคน*

Author: Marketing Dr.Chen
