การ ทำตา 2 ชั้น เป็นหนึ่งในหัตถการEye surgeryที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน เพราะสามารถเปลี่ยนลุคให้ดวงตาดูโต มีเสน่ห์ และสดใสขึ้นได้ทันที อีกทั้งยังช่วยปรับรูปตาให้ดูสมดุลและคมชัดมากยิ่งขึ้น แต่หนึ่งในคำถามที่หลายคนกังวลก่อนเข้ารับการทำตาคือ “ทำตาเจ็บไหม?” และ “ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?” บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจแบบตรงไปตรงมา ทั้งเรื่องความเจ็บในแต่ละช่วง และระยะเวลาฟื้นตัวหลัง กรีดตาสองชั้น พร้อมคำแนะนำจากมุมมองทางการแพทย์ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยที่สุด
ศัลยกรรมตา 2 ชั้น คืออะไร?
ศัลยกรรมตา 2 ชั้น เป็นการปรับลักษณะหนังตาบนให้มีรอยพับชัดเจน หรือเพิ่มรอยพับตาใหม่ เพื่อให้ดวงตาดูมีมิติมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีตาชั้นเดียว ตาไม่เท่ากัน หรือหนังตาตก ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าดูง่วง ไม่สดใส
เทคนิคที่ใช้ในการทำตา 2 ชั้นมีหลายรูปแบบ เช่น
- เทคนิคเย็บจุด (เย็บสามจุด/หกจุด) เหมาะกับคนที่มีหนังตาไม่เยอะ ไม่หย่อน
- เทคนิคกรีดตาสองชั้น (กรีดยาว / กรีดสั้น) เหมาะกับคนที่มีหนังตาเยอะหรือมีปัญหาไขมันสะสม
- เทคนิคผสมผสานกับการตัดหนังตาหรือไขมันเปลือกตา เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล
ทำไมปี 2025 คนถึงนิยมทำตาสองชั้น
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้การ ทำตา 2 ชั้น ยังคงเป็นที่นิยมคือการได้รับอิทธิพลจาก เทรนด์เกาหลีและดาราไทย เรามักเห็นศิลปิน นักแสดง และอินฟลูเอนเซอร์ที่มีดวงตากลมโต คมชัด ทำให้หลายคนอยากมีดวงตาที่สวยละม้ายคล้ายดารา
นอกจากนี้ การ ศัลยกรรมตา ในปี 2025 ได้พัฒนาไปไกลกว่าเดิมมาก เทคนิคใหม่ๆ มีความปลอดภัยสูง ฟื้นตัวไว และแผลเล็กลง จึงทำให้ผู้คนตัดสินใจง่ายขึ้นที่จะเข้ารับการทำ ตา 2 ชั้น
เหตุผลหลักที่คนส่วนใหญ่เลือกทำ ได้แก่
- ต้องการให้ดวงตาดูกลมโต สดใสขึ้น
- เพิ่มความอ่อนเยาว์ ดูไม่เหนื่อยล้า
- ปรับบุคลิกภาพให้มั่นใจทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงาน
เทคนิคทำตา 2 ชั้นยอดนิยมในปี 2025
เมื่อพูดถึงการ ทำตา 2 ชั้น ปัจจุบันมีเทคนิคที่หลากหลายให้เลือกตามสภาพดวงตาและความต้องการของแต่ละบุคคล
- การกรีดตาสองชั้น (Incision Method)
เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาหย่อนหรือไขมันเปลือกตาเยอะ วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาได้ถาวร ทำให้ชั้นตาคมชัด ดูสวยยาวนาน - การเย็บจุด (Non-incision / Suture Technique) เหมาะกับคนอายุน้อยที่หนังตาไม่เยอะ เทคนิคนี้มีข้อดีคือแผลเล็ก ฟื้นตัวไว เหมือนการทำตาแบบธรรมชาติ
- Hybrid Technique เป็นเทคนิคผสมผสานระหว่างการเย็บและการกรีด เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเป็นธรรมชาติแต่ยังมีปัญหาหนังตาเล็กน้อย
การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำ ตา 2 ชั้น เพราะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ดูเข้ากับรูปหน้าและบุคลิกแต่ละคน
ข้อดีของการทำตาสองชั้นในปี 2025
ทำไมคนถึงเลือก ทำตา กันมากขึ้น? นี่คือข้อดีที่เห็นได้ชัดเจน
- ปรับบุคลิกภาพและความมั่นใจ – ดวงตาที่สดใสทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเป็นมิตรและมั่นใจมากขึ้น
- แต่งหน้าง่ายขึ้น – คนที่มี ตา 2 ชั้น จะกรีดอายไลเนอร์และแต่งตาได้สวยกว่า
- ดูอ่อนเยาว์ ลดอายุ – การแก้หนังตาตกหรือดวงตาหมองคล้ำ ช่วยให้ดูเด็กลงทันที
- เหมาะกับทั้งชายและหญิง – ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่นิยม ผู้ชายยุคใหม่ก็หันมาให้ความสนใจกับการทำ ศัลยกรรมตา เช่นกัน
คำถามยอดฮิต : ทำตา 2 ชั้น “เจ็บไหม”?
ก่อนทำ : ไม่มีความเจ็บ เพราะมีการวางยาชา
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด คุณหมอจะใช้ ยาชาเฉพาะที่ หรือในบางเคสอาจใช้ ยานอนหลับ ร่วมด้วย ทำให้ระหว่างทำจะ ไม่รู้สึกเจ็บ อาจมีเพียงความรู้สึกตึงเล็กน้อยบริเวณที่ทำ ซึ่งไม่ถึงกับทรมานระหว่างทำ : อาการเจ็บน้อยมาก
ในกรณีที่ใช้ยาชาอย่างเดียว คนไข้จะรู้สึกตัวระหว่างผ่าตัด และอาจรู้สึกถึงแรงดึงเบา ๆ หรือการเคลื่อนไหวของเครื่องมือ แต่ไม่มีความเจ็บแบบ “โดนมีดกรีด” แน่นอน เพราะบริเวณที่ทำจะชาอย่างสมบูรณ์หลังทำ : เริ่มมีความรู้สึกตึง ๆ หรือเจ็บบ้าง
เมื่อฤทธิ์ยาชาหมด อาจมีอาการ ตึง แสบ หรือปวดระบมเล็กน้อย ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็นและทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง อาการเจ็บจะลดลงเรื่อย ๆ ภายใน 2-3 วันแรกระยะเวลาฟื้นตัวนานแค่ไหน?
นี่คือคำถามยอดนิยมอีกข้อที่หลายคนสงสัยก่อนจะตัดสินใจ ทำตา 2 ชั้น โดยเฉพาะในคนที่มีตารางงานแน่น หรือไม่สามารถหยุดพักได้หลายวัน
วันแรก – วันที่ 3 : อาการบวมช้ำจะเริ่มชัดเจน
หลังการผ่าตัด อาจมี อาการบวมและช้ำบริเวณเปลือกตา ซึ่งเป็นเรื่องปกติ คุณหมอมักจะแนะนำให้ประคบเย็นในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพื่อลดอาการบวม
วันที่ 4 – วันที่ 7 : เริ่มเห็นชั้นตาชัดขึ้น
อาการบวมจะเริ่มลดลงอย่างชัดเจน สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เพียงหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ออกแรงมาก หรือต้องเผชิญกับฝุ่นละออง เช่น ฟิตเนส ว่ายน้ำ หรือขับรถทางไกล
วันที่ 7 – วันที่ 10 : ตัดไหมและเริ่มเข้าสู่โหมดธรรมชาติ
คุณหมอมักนัดตัดไหมในช่วงนี้ และคุณจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ของชั้นตาได้ชัดเจนขึ้น โดยทั่วไปภายใน 2 สัปดาห์ ชั้นตาจะเริ่มเข้าที่และดูเป็นธรรมชาติขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจาก 1 เดือนขึ้นไป : เหมือนคนไม่เคยทำ!
หลังจาก 1 เดือน ชั้นตาจะดูนุ่มนวล ไม่บวม และสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ หลายคนบอกว่า “ไม่มีใครรู้เลยว่าทำมา” เพราะดูธรรมชาติมาก
ทำตา 2 ชั้น เหมาะกับใคร?
แม้การ ทำตา 2 ชั้น จะเป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมาก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จำเป็นต้องทำ ดังนั้นการประเมินว่าใคร “เหมาะ” กับการทำตาจึงสำคัญมาก ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การ กรีดตาสองชั้น หรือเย็บชั้นตาจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้
คนที่มีตาชั้นเดียว หรือชั้นตาหลบใน
ผู้ที่มี ตาชั้นเดียว มักจะรู้สึกว่าดวงตาดูเล็ก เหมือนง่วงอยู่ตลอดเวลา หรือแต่งตาไม่ติด การทำตา 2 ชั้นจะช่วยสร้างรอยพับชัดเจน ทำให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น และมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
ผู้ที่มีชั้นตาไม่เท่ากัน
ชั้นตาข้างหนึ่งสูง อีกข้างหนึ่งต่ำ หรือมีลักษณะพับไม่เท่ากัน เป็นหนึ่งในเหตุผลยอดฮิตที่หลายคนตัดสินใจ ทำตาสองชั้น เพราะช่วยแก้ไขให้ตาดูสมดุลเท่ากันทั้งสองข้าง
คนที่มีไขมันหรือหนังตาเยอะ
ผู้ที่มีหนังตาตก หรือมีไขมันสะสมมากบริเวณเปลือกตา อาจทำให้ดูมีอายุ และบดบังความสดใสของดวงตา การ กรีดตาสองชั้น พร้อมตัดไขมันส่วนเกินออก จะช่วยให้เปลือกตาเบา ชั้นตาชัดขึ้น และหน้าดูอ่อนวัยขึ้นทันที
คนที่แต่งหน้ายาก เพราะไม่มีชั้นตา
หลายคนเจอปัญหา “แต่งตาไม่เท่ากัน” หรือ “เขียนอายไลเนอร์แล้วหายไปกับเปลือกตา” การทำตาสองชั้นจะช่วยให้ชั้นตาชัดขึ้น แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น และลดเวลาในการแต่งหน้าในชีวิตประจำวัน
ผู้ที่ต้องการปรับบุคลิกให้ดูสดใสขึ้น
ในบางกรณีแม้จะไม่มีปัญหาทางกายภาพที่ชัดเจน แต่หลายคนรู้สึกว่าใบหน้าดูไม่สดใส ดวงตาดูเศร้าหรือเหนื่อยล้า การทำตา 2 ชั้นช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูมั่นใจ สดใส และอ่อนเยาว์ขึ้นได้อย่างชัดเจน
บทสรุป ปี 2025 ทำไมคนถึงนิยมทำตาสองชั้น
ในปี 2025 การ ทำตา 2 ชั้น ได้กลายเป็นเทรนด์ที่ไม่เพียงแต่เกี่ยวกับความสวยงาม แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดี การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมและสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานจะช่วยให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ปลอดภัย และอยู่กับคุณไปได้ยาวนาน เพราะเหตุนี้เอง ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน หรือวัย 40+ ต่างก็ยังคงหันมาเลือก ทำตา, ตา 2 ชั้น, ทำตา 2 ชั้น, กรีดตาสองชั้น และศัลยกรรมตา กันอย่างต่อเนื่องในปีนี้
Author: DCH Hospital
Dr.Chen Writer
