ในยุคที่เทรนด์ความงามเน้น “โครงหน้าสมส่วนและเป็นธรรมชาติ” การ ปรับโครงหน้า จึงกลายเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมของผู้ที่ต้องการเปลี่ยนบุคลิกให้ดูอ่อนโยนและละมุนขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีปัญหาโหนกแก้มสูง หน้ากว้าง หรือคางสั้น ซึ่งเทคนิคหลักที่นิยมได้แก่ ยุบโหนก กรอกราม และเลื่อนคาง เพื่อสร้างสัดส่วนใบหน้าที่สมดุลและได้รูปแบบ V-line อย่างไรก็ตาม หลายคนที่วางแผนทำศัลยกรรมปรับโครงหน้ามักมีคำถามว่า “ต้องทำดึงหน้าร่วมด้วยไหม?” เพราะบางเคสหลังปรับโครงหน้าแล้ว ใบหน้าดูเรียวขึ้นจริงแต่กลับมีผิวหนังส่วนเกินหรือความหย่อนคล้อยตามมา โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
ปรับโครงหน้าคืออะไร
ปรับโครงหน้า (Facial Bone Contouring Surgery) คือการศัลยกรรมที่ปรับโครงสร้างกระดูกใบหน้า เช่น โหนกแก้ม กราม และคาง เพื่อให้ได้สัดส่วนสมดุล อ่อนโยน และเหมาะกับบุคลิกของแต่ละคน
เทคนิคหลักมี 3 แบบ ได้แก่
ยุบโหนก (Zygoma Reduction)
การตัดและเลื่อนกระดูกโหนกแก้มเข้าด้านใน เหมาะกับผู้ที่โหนกแก้มสูง หน้าดูแข็งหรือไม่สมดุล
- ผลลัพธ์ : ใบหน้าดูแคบลง ด้านข้างไม่โปน
- จุดเด่น : ช่วยให้หน้าดูอ่อนโยน ละมุนขึ้นทันที
กรอกราม (Mandible Reduction / Jaw Shaving)
การกรอหรือตัดกระดูกกรามด้านล่างเพื่อลดเหลี่ยมและความกว้างของหน้า
- ผลลัพธ์ : หน้าเรียวยาวแบบ V-line
- จุดเด่น : ช่วยปรับใบหน้าช่วงล่างให้สมดุลกับคางและโหนก
เลื่อนคาง (Genioplasty)
การตัดและเคลื่อนกระดูกคางให้ได้ตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น ยืดให้ยาวขึ้น ถอยหลัง หรือเลื่อนมาด้านหน้า
ผลลัพธ์ : คางดูได้รูปและสอดรับกับสัดส่วนใบหน้า
จุดเด่น : แก้ปัญหาคางสั้น คางถอย หรือคางยื่นได้ตรงจุด
ดึงหน้าคืออะไร
ดึงหน้า (Facelift / Rhytidectomy) เป็นการผ่าตัดยกกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อชั้นลึก (SMAS layer) เพื่อแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยที่เกิดจากอายุหรือแรงโน้มถ่วง ปัจจุบันนิยมเทคนิค ส่องกล้อง (Endoscopic Facelift) เพราะแผลเล็ก ฟื้นตัวไว และให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
ประเภทของการดึงหน้า
- Mini Facelift : เก็บเฉพาะแก้มและแนวกรอบหน้า
- Mid Facelift: ยกกระชับช่วงใต้ตาและข้างแก้ม
- Full Facelift : ยกทั้งใบหน้า รวมถึงลำคอ
- Neck Lift : ดึงลำคอและแนวกรามให้กระชับ
ปรับโครงหน้า จำเป็นต้อง “ดึงหน้า” ร่วมด้วยไหม
คำตอบคือ “ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและอายุของคนไข้”
1. ผิวหย่อนคล้อยมาก
เมื่อทำการ ยุบโหนกหรือกรอกราม ผิวที่เคยตึงบนโครงกระดูกจะสูญเสียการพยุง ทำให้เกิดความหย่อนคล้อย การดึงหน้าช่วยเก็บผิวส่วนเกินให้แนบไปกับโครงหน้าใหม่ ผลลัพธ์จึงเรียบและเนียนกว่า
2. อายุเกิน 35 ปี
หลังอายุ 35 ปีขึ้นไป โครงสร้างผิวและไขมันเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น การดึงหน้าร่วมกับการปรับโครงหน้าจะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์กว่าเพียงปรับกระดูกอย่างเดียว
3. เนื้อแก้มเยอะ ผิวหนา
บางคนมีเนื้อแก้มหนา แม้โครงกระดูกจะเล็กลงแต่ผิวหนังอาจยังคล้อย การดึงหน้าส่วนล่าง (Lower Facelift) จะช่วยให้เห็นแนวกรอบหน้าคมชัดขึ้น
4. เคยทำศัลยกรรมมาก่อน
ในเคสที่เคยปรับโครงหน้าแล้วแต่เวลาผ่านไปผิวเริ่มหย่อน สามารถทำดึงหน้าภายหลังเพื่อรีเฟรชผลลัพธ์ให้กลับมาเหมือนเดิมได้
ข้อดีของการทำดึงหน้าร่วมกับปรับโครงหน้า
- ผลลัพธ์สมบูรณ์ : ผิวไม่เหลือส่วนเกินหลังลดกระดูก
- ยืดอายุความอ่อนเยาว์ : ได้ทั้งโครงสร้างและผิวที่กระชับ
- ลดโอกาสผ่าตัดซ้ำ : แก้ทั้งโครงและผิวในครั้งเดียว
- แนวกรอบหน้าคมชัด : ดึงหน้าช่วยให้เห็นเส้น Jawline เด่นขึ้น
- ใบหน้าสมส่วนจากทุกมุม : เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลแบบ K-style
ความเสี่ยงและสิ่งที่ควรระวัง
แม้การศัลยกรรมสมัยใหม่จะปลอดภัยขึ้นมาก แต่การผสมเทคนิคหลายอย่างก็ต้องทำโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
- ระยะพักฟื้นยาวขึ้น (3–4 สัปดาห์)
- เสี่ยงต่อการบวมช้ำมากกว่าทำอย่างเดียว
- ต้องดูแลแผลอย่างเคร่งครัด
- หากเลือกคลินิกที่ไม่มีห้องผ่าตัดมาตรฐาน อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือเส้นประสาทอักเสบ
ดังนั้นควรเลือกสถานพยาบาลที่มี ทีมศัลยแพทย์ตกแต่งใบหน้า (Craniofacial Surgeon) และ ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ (OR มาตรฐานโรงพยาบาล) เท่านั้น
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ไม่จำเป็นหากผิวยังแน่นและยืดหยุ่นดี ปรับโครงหน้าเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอ
ถ้าใช้เทคนิคดึงหน้าส่องกล้องหรือดึงเฉพาะชั้น SMAS จะยังคงความเป็นธรรมชาติและสามารถแสดงอารมณ์ได้ปกติ
โดยทั่วไปเริ่มพิจารณาหลังอายุ 35 ปีขึ้นไป หรือเมื่อผิวเริ่มหย่อนจนเห็นร่องแก้มชัด
ได้ หากแพทย์ประเมินว่าร่างกายแข็งแรงพอ การทำพร้อมกันช่วยลดระยะฟื้นตัวและให้ผลลัพธ์สมบูรณ์ที่สุด
สรุป ปรับโครงหน้า ต้องดึงหน้าร่วมด้วยไหม
การ “ปรับโครงหน้า” เช่น ยุบโหนก กรอกราม และเลื่อนคาง เป็นการแก้ไขโครงสร้างใบหน้าอย่างถาวร โดยไม่จำเป็นต้องดึงหน้าทุกราย แต่สำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยหรืออายุมาก การ ดึงหน้า ร่วมด้วยจะช่วยให้ผลลัพธ์ดูเรียบเนียนและยกกระชับกว่าเดิม สิ่งสำคัญคือ ให้แพทย์ประเมินแบบรายบุคคล เพราะแต่ละคนมีลักษณะโครงกระดูกและผิวที่แตกต่างกัน การปรับโครงหน้าโดยไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่าง “โครง” และ “ผิว” อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่สมบูรณ์ ดังนั้น หากคุณกำลังวางแผนทำศัลยกรรมปรับโครงหน้า ควรเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมโครงหน้าและการยกกระชับ เพื่อออกแบบใบหน้าใหม่ที่ได้ทั้งโครงสร้างและผิวที่กระชับในเวลาเดียวกัน
Author: DCH Hospital
Dr.Chen Writer

