ประกาศใช้วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2566

 

บริษัท ด็อกเตอร์ เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล จำกัด

เลขที่ 216 ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร

โทรศัพท์ 02-103-1723 อีเมล Management@drchenhospital.com

 

สารบัญ

  1. คำนิยาม. 1
  2. ช่องทางและแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล. 2
  3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม. 3
  4. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล. 5

4.1        วัตถุประสงค์ที่บริษัทสามารถดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลได้โดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมาย โดยไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล. 5

4.2        วัตถุประสงค์ที่บริษัทจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล  10

4.3        วัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน. 10

  1. บุคคลภายนอกที่บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล. 11

5.1        กลุ่มบริษัท. 11

5.2        ผู้ให้บริการของบริษัท. 11

5.3        พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท. 12

5.4        บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายอนุญาต. 12

5.5        ที่ปรึกษาวิชาชีพ. 12

5.6        บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการโอนธุรกิจ. 12

  1. ข้อกำหนดเกี่ยวกับการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปยังผู้รับในต่างประเทศ. 13
  2. การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม. 13
  3. ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล. 13
  4. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ. 14
  5. ข้อมูลที่สำคัญอื่น ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล. 14

10.1      คุกกี้และวิธีการใช้คุกกี้. 14

10.2      ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก. 14

  1. สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล. 15
  2. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้. 16
  3. รายละเอียดการติดต่อบริษัท. 16

 

ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับบุคลากรของบริษัท
(พนักงาน กรรมการ ผู้ถือหุ้น และผู้สมัครงาน)

  • บริษัท ด็อกเตอร์ เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล จำกัด (“บริษัท”) ได้มีการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของ บุคลากรของบริษัท (เช่น พนักงาน กรรมการ ผู้ถือหุ้น ผู้สมัครงาน เป็นต้น) (“ท่าน” หรือ“เจ้าของข้อมูล”) เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (และที่อาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต) บริษัทจึงได้ออกประกาศฉบับนี้ โดยจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียดและวิธีการจัดการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากท่าน รวมถึงชี้แจงวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ตลอดจนระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวและสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  1. คำนิยาม

“บริษัท” หมายถึง บริษัท ด็อกเตอร์ เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล จำกัด

“ท่าน” หรือ “เจ้าของข้อมูล” หมายถึง พนักงาน กรรมการ ผู้ถือหุ้น และผู้สมัครงานของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลซึ่งระบุถึงตัวเจ้าของข้อมูลหรือทำให้สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ ตามที่ระบุไว้ข้างล่างนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญและมีความจำเป็นต่อบริษัทเพื่อที่จะปฏิบัติตามประกาศความเป็นส่วนตัวกับเจ้าของข้อมูลหรือนิติบุคคลที่เจ้าของข้อมูลเป็นผู้กระทำการแทน

ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคล
แต่มีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจึงจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน

  1. ช่องทางและแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทดำเนินการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยบริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง ซึ่งรวมถึงการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในระหว่างขั้นตอนการเจรจาจ้างงาน การรับสมัครงาน การประชุม หรือดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท
  • ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเก็บรวมรวมโดยอัตโนมัติด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิดซึ่งติดตั้งภายในพื้นที่ของบริษัท หรือจากแหล่งอื่น ๆ โดยอ้อมหรือจากแหล่งอื่น ๆ โดยอ้อม (เช่น สื่อสังคม แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลภายนอก หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ) และผ่านผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงานราชการ หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ซึ่งประเภทของข้อมูลที่บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมนี้จะขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของเจ้าของข้อมูลกับบริษัท
  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนให้แก่บุคคลภายนอกหรือโอนให้แก่ผู้รับในต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด เลขประจำตัวประชาชน อาชีพ ตำแหน่งงาน ประสบการณ์การทำงาน สถานที่ทำงาน ตำแหน่ง การศึกษา สัญชาติ ข้อมูลบนเอกสารที่ออกโดยหน่วยราชการ (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เป็นต้น) ลายมือชื่อ ลักษณะทางกายภาพของบุคคลซึ่งเป็นข้อมูลจากการบันทึกเสียง การบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ รูปถ่าย การบันทึกภาพและวีดิโอจากกล้องวงจรปิด และข้อมูลประจำตัวอื่น ๆ
  • ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) Line Account และรหัสประจำตัวสำหรับ
    การติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
  • ข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เช่น สถานภาพทางการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับบุตร รายละเอียดการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน และผู้รับผลประโยชน์
  • ข้อมูลเกี่ยวกับงาน เช่น ตำแหน่งงาน แผนก รายละเอียดเกี่ยวกับสัญญา ประวัติส่วนตัว ประวัติการจ้าง ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ใบสมัครงาน ข้อมูลการขาดงานและการใช้วันหยุด ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่และการประพฤติมิชอบ ประวัติการประเมินผลและการพิจารณาทบทวนผลการปฏิบัติงาน ประวัติการศึกษา สถานภาพทางทหาร ประวัติการฝึกอบรม ข้อมูลความสามารถทางภาษาและการใช้คอมพิวเตอร์ทั้งอุปกรณ์และโปรแกรมสำเร็จรูป
  • ข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนและผลประโยชน์ เช่น ข้อมูลค่าจ้าง ค่าตอบแทน และสิทธิที่จะได้รับผลประโยชน์ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
  • ข้อมูลทางบัญชี เช่น เลขที่บัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี ธนาคารเจ้าของบัญชี และข้อมูลอื่น ๆ
    ที่ปรากฏบนหน้าสมุดบัญชีธนาคาร เลขที่บัตรเครดิต
  • ข้อมูลทางเทคนิค เช่น เลขที่อยู่ไอพีหรืออินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (IP address) เว็บบีคอน (web beacon) ล็อก (Log) ไอดีอุปกรณ์ (Device ID) รุ่นอุปกรณ์และประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลการเข้าถึง ข้อมูลการเข้าใช้งานแบบ single sign-on (SSO) การเข้าสู่ระบบ (Login log) เวลาที่เข้าถึง ระยะเวลาที่ใช้บนหน้าเพจหรือเว็บไซต์ของบริษัท คุกกี้ ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ การตั้งค่าเขตเวลา (Time zone setting) และสถานที่ตั้ง ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่เจ้าของข้อมูลใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์มของบริษัท
  • รายละเอียดข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อบัญชีผู้เข้าใช้งาน (account identifiers) ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน รหัสประจำตัว (PIN Code) สำหรับการใช้งานระบบสารสนเทศของบริษัท
  • ข้อมูลการใช้งาน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานของเจ้าของข้อมูลบนเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม
    การติดต่อสื่อสารกับบริษัท
  • รายละเอียดการถือหุ้น เช่น เลขทะเบียนผู้ถือหุ้น บันทึกของผู้ถือหุ้น รวมถึงการถือครองและข้อมูลเกี่ยวกับหลักทรัพย์ เช่น หุ้น หุ้นกู้ ใบสำคัญแสดงสิทธิ เป็นต้น สิทธิในการรับเงินปันผล การลงคะแนนเสียง การแต่งตั้งผู้รับมอบฉันทะ คำเสนอซื้อและเสนอขาย เงื่อนไขในการใช้สิทธิ และวันใช้สิทธิ สำเนาข้อซักถามและข้อร้องเรียนของผู้ถือหุ้น และการติดต่ออื่น ๆ ระหว่างเจ้าของข้อมูลและบริษัทในฐานะผู้ถือหุ้น

ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของเจ้าของข้อมูลซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนให้แก่บุคคลภายนอกหรือโอนให้แก่ผู้รับในต่างประเทศ ได้แก่

  • ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอื่น ๆ ซึ่งแสดงอยู่ในเอกสารประจำตัว (เช่น เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา กรุ๊ปเลือด)
  • ข้อมูลชีวภาพ (biometric data) (เช่น ใบหน้า ลายนิ้วมือ)
  • ข้อมูลการแพทย์และสุขภาพ (เช่น หมู่เลือด ข้อมูลการรักษาพยาบาล ข้อมูลการตรวจสุขภาพประจำปี การแพ้อาหาร แพ้ยา โรคประจำตัว ความพิการ)
  • ประวัติอาชญากรรม และประวัติการเสพยาเสพติด
  • เชื้อชาติและศาสนา
  • ความคิดเห็นทางการเมือง
  1. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของเจ้าของข้อมูลไปยังบุคคลภายนอกหรือโอนไปยังผู้รับในต่างประเทศ (ถ้ามี) เพื่อใช้ในการดำเนินกิจการของบริษัท การดำเนินธุรกิจ การติดต่อสื่อสาร การก่อตั้งหรือปฏิบัติตามสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
การปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของบริษัท การติดต่อกับหน่วยงานภายนอก และ/หรือเพื่อประโยชน์โดยชอบของบริษัท และ/หรือของเจ้าของข้อมูลหรือนิติบุคคลที่เจ้าของข้อมูลเป็นตัวแทน ซึ่งบริษัทจะปฏิบัติตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้โดยเคร่งครัด

บริษัทจะร้องขอข้อมูลของเจ้าของข้อมูลเพียงเท่าที่จำเป็นและกฎหมายอนุญาตเท่านั้น ทั้งนี้ หากบริษัทไม่สามารถทำการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปยังบุคคลภายนอกหรือโอนไปยังผู้รับในต่างประเทศ (ถ้ามี) ตามที่ระบุในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ไม่ว่าด้วยเหตุใด บริษัทอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาจ้างที่ทำกับเจ้าของข้อมูลได้ และในบางกรณีบริษัทอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาจ้างได้อีกต่อไป และ/หรือไม่สามารถดำเนินการตามกฎหมายในเรื่องที่เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลหรือนิติบุคคลที่เจ้าของข้อมูลเป็นตัวแทนได้อีกต่อไป

บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของเจ้าของข้อมูลให้แก่บุคคลภายนอกหรือโอนให้แก่ผู้รับในต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • วัตถุประสงค์ที่บริษัทสามารถดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลได้โดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมาย โดยไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

ในกรณีดังต่อไปนี้ บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บุคคลภายนอกหรือโอนให้แก่ผู้รับในต่างประเทศได้โดยไม่ต้องขอรับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญากับเจ้าของข้อมูลหรือนิติบุคคลที่เจ้าของข้อมูลเป็นตัวแทน หรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลหรือนิติบุคคลที่เจ้าของข้อมูลเป็นตัวแทนก่อนการเข้าทำสัญญา
  • เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก โดยความจำเป็นดังกล่าวจะต้องสมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
  • เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ
  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัท

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (1) ถึง (5) ข้างต้น เพื่อ
การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บุคคลภายนอกหรือโอนให้แก่ผู้รับในต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้เท่านั้น

 

 

  • กรณีเจ้าของข้อมูลเป็นผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน
    • เพื่อการประมวลผลคำขอสมัครของพนักงาน และการยืนยันตัวบุคคลเพื่อติดต่อ รวมทั้งการคัดกรองประวัติ หรือตรวจสอบข้อมูลที่ปรากฏในคำขอสมัครของพนักงาน
    • การประเมินความเหมาะสมและให้คะแนนผู้สมัคร เพื่อตัดสินใจจ้าง
      ทำสัญญาจ้าง และพิจารณาการจ่ายเงินค่าจ้างหรือค่าตอบแทน ตลอดจนการให้เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
    • เพื่อการติดต่อในกรณีฉุกเฉินไปยังบุคคลที่พนักงานกำหนด
    • เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทต้องการอย่างสมเหตุสมผล ตามที่ระบุไว้ในเอกสารที่เกี่ยวข้องใด ๆ
  • กรณีเจ้าของข้อมูลเป็นพนักงานที่บริษัทตกลงจ้าง
    • เพื่อการจัดสรรงานให้แก่พนักงาน และการบริหารจัดการบุคลากร
    • เพื่อดำเนินการยืนยันหรือตรวจสอบตัวบุคคลของพนักงานเพื่อ
      การติดต่อสื่อสาร แจ้ง และ/หรือรับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากบริษัท หรือ
      การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นของบริษัท
    • เพื่อการจัดให้มีการฝึกอบรม เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่จำเป็น และกระบวนการปฐมนิเทศและเรียนรู้งาน และเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ ความชำนาญ ที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่
    • เพื่อการกำหนดค่าจ้าง การชำระค่าจ้าง และการให้ผลประโยชน์ต่าง ๆ
    • เพื่อการบริหารจัดการภายในองค์กร เช่น การจัดสรรทรัพยากร การตรวจสอบภายใน และงานธุรการ
    • เพื่อการติดต่อสื่อสาร รวมถึงการให้การอ้างอิงและคำแนะนำ
    • เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านสถิติและการวิเคราะห์ เพื่อการปรับปรุงบุคลากรและวิธีปฏิบัติในการจ้าง
    • เพื่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมาย
    • เพื่อการดำเนินการตรวจสอบภายในเพื่อติดตามเรื่องร้องเรียน ข้อเรียกร้อง หรือข้อพิพาทใด ๆ รวมถึงติดตามพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพนักงาน และป้องกันการฉ้อโกง
    • เพื่อการติดต่อในกรณีฉุกเฉินไปยังบุคคลที่พนักงานกำหนด
    • เพื่อการป้องกันกิจกรรมของพนักงานซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือการละเลยการปฏิบัติหน้าที่
    • เพื่อการคุ้มครองความลับของข้อมูลและสินทรัพย์ของบริษัท
    • เพื่อการป้องกัน ตรวจจับ และสอบสวนการฉ้อโกง การประพฤติมิชอบ หรือกิจกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจะได้รับการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่
    • เพื่อการวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยง
    • การปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ กฎเกณฑ์ แนวทาง คำสั่ง คำแนะนำ และการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาษีอากร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่น ๆ (ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ)
    • เพื่อการจัดการโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท การควบคุมภายใน การตรวจสอบภายในและการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีภายนอก และการดำเนินธุรกิจ และการปฏิบัติตามนโยบายและขั้นตอนของบริษัทที่อาจจำเป็นโดยกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับ
      การควบคุมความเสี่ยง การรักษาความปลอดภัย และความต่อเนื่องทางธุรกิจ
    • เพื่อให้สิทธิประโยชน์และผลตอบแทนตามความเหมาะสมและเห็นควรของบริษัท
    • เพื่อการคุ้มครองสิทธิ ทรัพย์สิน และความปลอดภัยของบริษัทหรือบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้อง และ/หรือคู่ค้าทางธุรกิจอื่น ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บริษัทหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหา และพนักงานที่เกี่ยวข้องได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
    • เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทต้องการอย่างสมเหตุสมผลโดยเกี่ยวข้องกับการจ้างของพนักงาน (เช่น การดำเนินกิจกรรมหรือการดำเนินงานเพื่อหรือในนามของบริษัท) หรือตามที่ระบุไว้ในสัญญาจ้างของพนักงาน ข้อบังคับ
      การทำงาน หรือเอกสารใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • กรณีเจ้าของข้อมูลเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น
    • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด หรือกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือกฎหมายอื่น ๆ
      ที่เกี่ยวข้อง เช่น การบริหารจัดการงานทะเบียน การมอบฉันทะ การบริหารจัดการบริษัท (เช่น การเริ่มตั้ง การเพิ่มทุน ลดทุน การปรับโครงสร้างกิจการ การเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน) การประชุมผู้ถือหุ้น การสรรหาและ
      การเป็นกรรมการบริษัท การประชุมคณะกรรมการบริษัท การจัดการเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้ถือหุ้น และ/หรือผู้ถือหุ้นกู้ การจ่ายเงินปันผล
      การจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ การจัดทำบัญชีและรายงาน การตรวจสอบ เอกสารตามกฎหมาย การจัดส่งเอกสารหรือหนังสือต่าง ๆ รวมถึงหน้าที่ตามกฎหมายต่าง ๆ ของการเป็นบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด หรือบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
    • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลอื่น
      เช่น การบริหารจัดการบริษัท การรักษาความปลอดภัย การจัดกิจกรรม หรือการส่งข่าวสาร หรือข้อเสนอใด ๆ เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ หรือกรรมการ รวมถึงเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
    • เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อจัดเตรียมกิจกรรม จัดเตรียมงาน และอำนวยความสะดวกสำหรับเจ้าของข้อมูลที่เข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัทจัดขึ้นตามที่บริษัทเห็นสมควร
    • เพื่อเป็นฐานข้อมูลผู้มีส่วนได้เสียของบริษัท และ/หรือใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารความสัมพันธ์ หรือการติดต่อประสานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท
    • เพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตน เช่น เพื่อการตรวจสอบ พิสูจน์ และยืนยันตัวตนของท่าน
    • เพื่อการบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบกิจการภายใน การตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งภายในบริษัท บริษัทในเครือ บริษัทในกลุ่มและภายนอก) และการบริหารจัดการธุรกิจของบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพ
    • การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับเจ้าของข้อมูลหรือนิติบุคคลที่เจ้าของข้อมูลเป็นตัวแทน
    • การดำเนินการตามคำสั่งของเจ้าของข้อมูล หรือการตอบข้อซักถามหรือความคิดเห็นของเจ้าของข้อมูล
    • การยืนยันตัวบุคคล การตรวจสอบและคัดกรองอื่น ๆ และการติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่องที่อาจจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
    • การปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ กฎเกณฑ์ แนวทาง คำสั่ง คำแนะนำ และการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาษีอากร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่น ๆ (ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ)
    • การจัดการโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท การควบคุมภายใน การตรวจสอบ การดำเนินธุรกิจ และการปฏิบัติตามนโยบายและขั้นตอนของบริษัทที่อาจจำเป็นโดยกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมความเสี่ยง การรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบ การเงินและการบัญชี ระบบต่าง ๆ และความต่อเนื่องทางธุรกิจ
    • การจัดการหรือการสอบสวนเรื่องร้องเรียน ข้อเรียกร้อง หรือข้อพิพาทใด ๆ
    • การบังคับสิทธิตามกฎหมายหรือตามสัญญาของบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การติดตามทวงถามจำนวนเงินใด ๆ
    • การตรวจสอบทางบัญชีการเงินที่จะดำเนินการโดยผู้สอบบัญชี หรือการรับบริการด้านกฎหมายจากที่ปรึกษากฎหมาย
    • เพื่อดำเนินการในกรณีการเปลี่ยนแปลงในกิจการ เช่น การขาย การโอน
      การควบรวมกิจการ การฟื้นฟูกิจการ หรือ กรณีอื่นที่คล้ายกัน ซึ่งบริษัทอาจโอนข้อมูลของท่านให้กับบุคคลที่สามหนึ่งฝ่ายหรือมากกว่าในฐานะส่วนหนึ่งของการดำเนินการดังกล่าว
    • วัตถุประสงค์ที่บริษัทจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อน
      การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลซึ่งอาจรวมถึงเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารทางการตลาด การเสนอข้อเสนอพิเศษ การประชาสัมพันธ์สินค้าและการบริการของบริษัท การเผยแพร่เอกสารส่งเสริมการขายที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท บริษัทในเครือและบริษัทย่อยของบริษัทให้แก่บุคคลภายนอก เมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูล ณ เวลาใดก็ได้ โดยเจ้าของข้อมูลสามารถติดต่อ บริษัท ภัทร ปาล์มออยล์ จำกัด เพื่อถอนความยินยอม ทั้งนี้การถอนความยินยอมจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของเจ้าของข้อมูลตามความยินยอมของเจ้าของข้อมูลก่อนที่จะขอถอนความยินยอมหรือการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย และการโอนข้อมูลที่ละเอียดไปยังบุคคลภายนอกหรือโอนไปยังผู้รับในต่างประเทศ (ถ้ามี) ที่บริษัทมีสิทธิดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

  • วัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน

เมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของเจ้าของข้อมูลไปยังบุคคลภายนอกหรือโอนไปยังผู้รับในต่างประเทศ (ถ้ามี)
เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • กรณีเจ้าของข้อมูลเป็นผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน และ/หรือพนักงานที่บริษัท
    ตกลงจ้าง
    • เพื่อการยืนยันการเข้าสถานที่เพื่อปฏิบัติงาน (เช่น การสแกนลายนิ้วมือ)
    • เพื่อพิจารณาคำขอสมัครและตัดสินใจจ้าง การคัดกรองประวัติ การติดตาม ตรวจสอบ และการช่วยเหลือด้านสุขภาพเมื่อมีเหตุสุดวิสัย
    • เพื่อเก็บบันทึกข้อมูลเกี่ยวโรคประจำตัว ผลการตรวจสุขภาพ โรคติดต่อ และการตรวจสุขภาพก่อนการทำงาน และตรวจสุขภาพประจำปี ตามระเบียบบริษัท หรือตามที่กฎหมายกำหนด
    • เพื่อให้โอกาสอย่างเท่าเทียมและความหลากหลาย ทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา และเพศสภาพ
    • เพื่อบันทึกการเข้า-ออกสถานที่ทำงาน หรือสถานที่ของบริษัท ระบุและยืนยันตัวตนของท่าน การรักษาความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน การป้องกันอาชญากรรม
    • เพื่อการตอบ ยืนยัน และเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการสอบถาม การให้คำปรึกษา การบริการทางด้านการตลาด
    • เพื่อการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ บริการ และตามขอบเขตของงานบริการทางด้านการตลาด
    • เพื่อพัฒนาและปรับปรุงบุคลากรและวิธีปฏิบัติในการจ้าง

 

 

  • กรณีเจ้าของข้อมูลเป็นกรรมการ และ/หรือผู้ถือหุ้นของบริษัท
    • เพื่อเก็บข้อมูลสุขภาพและการแพ้อาหารของกรรมการ และผู้ถือหุ้นที่สนใจเข้าร่วมประชุม หรือเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัท
    • เพื่อตรวจสอบและเก็บหลักฐานเอกสารการยืนยันตัวตน ซึ่งอาจรวมถึงเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  1. บุคคลภายนอกที่บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล

บริษัทอาจเปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บุคคลภายนอก (รวมถึงบุคลากรและตัวแทนของบุคคลภายนอก) ภายในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้ ซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยเจ้าของข้อมูลสามารถอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลได้

  • กลุ่มบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลอาจถูกเข้าถึงหรือเปิดเผยให้แก่นิติบุคคลอื่น ๆ ภายในกลุ่มบริษัท ซึ่งรวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลดังกล่าว
เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล การรายงานผลการดำเนินงานของบริษัท การบริหารความเสี่ยงหรือการตรวจสอบภายในของกลุ่มบริษัท

  • ผู้ให้บริการของบริษัท

บริษัทอาจใช้บริการของบุคคล นิติบุคคล ตัวแทน หรือผู้รับจ้างเพื่อการให้บริการแก่บริษัท
หรือเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนในการทำนิติกรรมทางธุรกิจระหว่างบริษัทและเจ้าของข้อมูลหรือนิติบุคคล
ที่เจ้าของข้อมูลเป็นตัวแทน บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลกับผู้ให้บริการเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (ก) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ (ข) ผู้ให้บริการการวิเคราะห์ (ค) ตัวแทนด้านการตลาด
สื่อโฆษณาและการติดต่อสื่อสาร (ง) ผู้ให้บริการชำระเงิน (จ) ผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัย และ
(ฉ) ผู้ให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและระบบคลาวด์

ในการให้บริการต่าง ๆ แก่บริษัทตามที่ระบุข้างต้น ผู้ให้บริการอาจมีความจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการของบริษัทเพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการให้บริการโดยผู้ให้บริการดังกล่าวเท่านั้น และบริษัทจะดำเนินการให้เป็นที่มั่นใจว่า
ผู้ให้บริการทุกรายที่บริษัททำงานด้วยจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไว้อย่างปลอดภัยและ
จะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกจากเพื่อการให้บริการแก่บริษัทเท่านั้น

  • พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท

บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทซึ่งมีส่วนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น พันธมิตรธุรกิจร่วม (co-brand partners) คู่สัญญา (market counterparties) โดยบริษัทจะดำเนินการให้เป็นที่มั่นใจว่าพันธมิตรทางธุรกิจทุกรายที่บริษัททำงานด้วยจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไว้อย่างปลอดภัยและจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเพื่อ
การอื่นใดนอกจากวัตถุประสงค์ภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

  • บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายอนุญาต

ในบางกรณี บริษัทอาจจะจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลกับบุคคลภายนอก เพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ ซึ่งรวมถึง การปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานรัฐ หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

  • ที่ปรึกษาวิชาชีพ

บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่ที่ปรึกษาวิชาชีพของบริษัทที่เกี่ยวกับบริการด้านการตรวจสอบ กฎหมาย การบัญชี และภาษีอากร ซึ่งช่วยในการประกอบธุรกิจหรือจัดการเกี่ยวกับข้อเรียกร้องทางกฎหมาย

  • บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการโอนธุรกิจ

บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่ผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้นรายสำคัญ ผู้รับโอนสิทธิ บุคคลที่อาจเป็นผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอนหรือบุคคลที่อาจเป็นผู้รับโอนของบริษัท ในกรณีที่มีการฟื้นฟูกิจการ การปรับโครงสร้างกิจการ การควบรวมกิจการ การเข้าซื้อกิจการ การขาย การซื้อ กิจการร่วมค้า การโอน การเลิกกิจการ หรือเหตุการณ์ใดในทำนองเดียวกันที่เกี่ยวข้องกับการโอนหรือการจำหน่ายจ่ายโอนธุรกิจ สินทรัพย์ หรือหุ้นทั้งหมดหรือส่วนใด ๆ ของบริษัท ทั้งนี้ หากมีเหตุการณ์ใด ๆ ดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้น ผู้รับข้อมูลจะปฏิบัติตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล

  1. ข้อกำหนดเกี่ยวกับการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปยังผู้รับในต่างประเทศ

บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้แก่บุคคลภายนอก หรือเครื่องแม่ข่าย (Server) ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางอาจมีหรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย โดยบริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อทำให้เจ้าของข้อมูลมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลจะโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐาน
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลนั้นชอบด้วยกฎหมาย

  1. การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม

เว็บไซต์ของบริษัทอาจมีลิงก์เชื่อมไปยังเว็บไซต์บุคคลภายนอก หากเจ้าของข้อมูลได้เข้าถึงเว็บไซต์ตามลิงก์ดังกล่าว ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะไม่ครอบคลุมไปถึงการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลในเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก ดังนั้น การที่บุคคลภายนอกซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลเว็บไซต์ดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลจึงอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท ซึ่งบริษัทจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ต้องรับผิดใด ๆ จากการกระทำของบุคคลภายนอกดังกล่าว

  1. ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมาตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลนานขึ้นหากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือในกรณีที่มีอายุความ หรือมาตรฐานวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกำหนดหรืออนุญาตให้บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปเพื่อวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว หากเจ้าของข้อมูลไม่แสดงความยินยอมให้บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลต่อไป บริษัทจะดำเนินการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามขั้นตอนการทำลายข้อมูลของบริษัทโดยจะดำเนินการให้เสร็จโดยไม่ชักช้า

นอกจากนี้ บริษัทจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งในเชิงองค์กรและเทคนิค  เช่น ใช้โปรโตคอลความปลอดภัย (Secure Sockets Layer: SSL) สำหรับการเข้ารหัสข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต และบริษัทจะป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจโดยจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของเจ้าของข้อมูลไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือในรูปแบบเอกสารให้สามารถเข้าถึงได้เฉพาะบุคลากรที่มีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่านั้น โดยจะจัดเก็บในสถานที่ที่มีระบบป้องกันการเข้าถึงตามมาตรฐานความปลอดภัยที่เหมาะสม และจะมีมาตรการป้องกันมิให้ข้อมูลส่วนบุคคล
สูญหาย เสียหาย หรือถูกทำลาย

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ

โดยทั่วไป การติดต่อธุรกิจของบริษัทไม่ได้มีเป้าหมายที่ผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ และบริษัทไม่ประสงค์ที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ หากผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ ประสงค์จะเข้าติดต่อธุรกิจกับบริษัท บุคคลดังกล่าวต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของบุคคลดังกล่าวก่อนที่จะติดต่อกับบริษัทหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท เว้นแต่บริษัทจะสามารถอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลที่เป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ ได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

  1. ข้อมูลที่สำคัญอื่น ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
    • คุกกี้และวิธีการใช้คุกกี้

หากเจ้าของข้อมูลเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลบางประการโดยอัตโนมัติจากเจ้าของข้อมูลโดยการใช้คุกกี้ ซึ่งคุกกี้คือเทคโนโลยีการติดตามประเภทหนึ่งซึ่งนำมาใช้ในการวิเคราะห์กระแสความนิยม (trend) การบริหารจัดการเว็บไซต์ ติดตามการเคลื่อนไหวการใช้เว็บไซต์ของบริษัท หรือเพื่อจดจำการตั้งค่าของผู้ใช้บริการ

อินเตอร์เน็ตเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะให้เจ้าของข้อมูลควบคุมได้ว่าจะยอมรับคุกกี้หรือไม่ หากเจ้าของข้อมูลปฏิเสธการติดตามโดยคุกกี้ ความสามารถของเจ้าของข้อมูลในการใช้งานเว็บไซต์อาจถูกจำกัดลงไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก

หากเจ้าของข้อมูลให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามใด ๆ หรือในกรณีที่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ (เช่น คู่สมรสและบุตรของเจ้าของข้อมูล เพื่อนร่วมงาน ผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน การส่งต่อในกรณีการรักษาเร่งด่วน) ก่อนที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นนั้นให้แก่บริษัท เจ้าของข้อมูลต้องดำเนินการเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเจ้าของข้อมูลมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และมีอำนาจอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้ อีกทั้งเจ้าของข้อมูลต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลที่สามเหล่านั้นทราบถึงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และขอรับความยินยอมจากบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง (หากจำเป็น) เว้นแต่เจ้าของข้อมูลจะสามารถอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามดังกล่าวได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม

ทั้งนี้ บริษัทจะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามอย่างเคร่งครัด

  1. สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล

ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เจ้าของข้อมูลอาจมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้

(ก)      การเข้าถึงข้อมูล: เจ้าของข้อมูลอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูล รวมถึงมีสิทธิขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอม

(ข)        การโอนย้ายข้อมูล: ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเป็นข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลที่บริษัทสามารถเก็บรวมรวมได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมเนื่องจากเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลก่อนเข้าทำสัญญานั้น เจ้าของข้อมูลอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมีเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

(ค)        การคัดค้าน: ในบางกรณี เจ้าของข้อมูลอาจมีสิทธิคัดค้านวิธีการที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลในบางกิจกรรมซึ่งระบุในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

(ง)         การลบหรือทำลายข้อมูล: เจ้าของข้อมูลอาจมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูล เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล เช่น หากข้อมูลนั้นไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลอีกต่อไป

(จ)        การจำกัด: เจ้าของข้อมูลอาจมีสิทธิจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล หากเจ้าของข้อมูลเชื่อว่าข้อมูลนั้นไม่ถูกต้อง หรือการประมวลผลของบริษัทไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือบริษัทไม่จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดอีกต่อไป

(ฉ)        การแก้ไขให้ถูกต้อง: เจ้าของข้อมูลอาจมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน

(ช)        การถอนความยินยอม: ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลอาจมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่เจ้าของข้อมูลได้ให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เว้นแต่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิที่จะถอนความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูล ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลจะไม่มีผลกระทบต่อสิทธิในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทสามารถทำได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

(ซ)        การยื่นเรื่องร้องเรียน: เจ้าของข้อมูลอาจมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนให้แก่หน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่เจ้าของข้อมูลเชื่อว่าบริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้

อย่างไรก็ดี บริษัทขอสงวนสิทธิในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวตนของเจ้าของข้อมูลก่อนการพิจารณาคำขอ และบริษัทอาจปฏิเสธคำขอของผู้ร้องขอในบางกรณีเมื่อกฎหมายอนุญาตให้บริษัทสามารถปฏิเสธได้

  1. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นครั้งคราว บริษัทขอให้เจ้าของข้อมูลอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อย่างละเอียดรอบคอบ และตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามข้อกำหนดของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นระยะ ๆ โดยบริษัทจะแจ้งเตือนให้เจ้าของข้อมูลทราบหรือขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลอีกครั้งหากกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดให้บริษัทต้องดำเนินการดังกล่าว

  1. รายละเอียดการติดต่อบริษัท

หากเจ้าของข้อมูลมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อสงสัยหรือเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ที่

(ก)      บริษัท ด็อกเตอร์ เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล จำกัด

  • 216 ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร 10240
  • Management@Drchenhospital.com

(ข)      เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  • Human Resource Department]
  • 216 ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร 10240
  • Management@Drchenhospital.com

 

DCH Hospital
Author: DCH Hospital

Dr.Chen Writer

line icon
ปรึกษา DCH ฟรี
Written by

DCH Hospital

Dr.Chen Writer